Page 31 - รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง กฎหมายว่าด้วยความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
P. 31
ส�ำนักงำนคณะกรรมกำรสิทธิมนุษยชนแห่งชำติ
รูปแบบของการปฏิบัติที่มีความแตกต่างกันระหว่างบุคคลที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ยังมีกรณีการเลือกปฏิบัติโดยอ้อม ซึ่ง
เป็นกรณีที่แม้การปฏิบัติหรือกฎเกณฑ์นั้นมีลักษณะเป็นกลาง (Neutral) แต่ส่งผลกระทบ (Impact) ในทางลบต่อบุคคล
ที่เกี่ยวข้องกับเหตุแห่งการเลือกปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม กฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายต่างประเทศได้ก�าหนด
นิยามและขอบเขตของการเลือกปฏิบัติโดยตรงและโดยอ้อมแตกต่างกันไป
ด้วยเหตุนี้ จึงน�ามาสู่ปัญหาที่ควรศึกษาวิจัยว่า ในปัจจุบันประเทศไทยมีสภาพปัญหาของการเลือก
ปฏิบัติในด้านต่าง ๆ อย่างไรบ้าง มาตรการทางกฎหมายที่เป็นอยู่มีความเหมาะสมเพียงพอและสอดคล้องกับหลักการ
สากลของสนธิสัญญาฉบับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องหรือไม่ ประเทศไทยควรมีการออกกฎหมายต่อต้านการเลือกปฏิบัติที่เป็น
องค์รวมหรือเป็นกฎหมายกลางที่ครอบคลุมการเลือกปฏิบัติในมิติหรือประเด็นต่าง ๆ หรือไม่ โดยควรท�าการศึกษาวิจัย
กฎหมายต่างประเทศเพื่อเปรียบเทียบกับกฎหมายไทยในเรื่องดังกล่าวด้วย
๑.๒.๓ กรอบแนวคิดการวิจัย (Conceptual Framework)
จากความหมายดังกล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่า หลักความเสมอภาคเป็นหลักส�าคัญซึ่งกฎหมายระหว่าง
ประเทศและกฎหมายภายในที่เกี่ยวข้องต่างรับรองไว้ ทั้งนี้ เพื่อบรรลุถึงหลักดังกล่าวกฎหมายจึงต้องขจัดหรือป้องกัน
พฤติกรรมบางอย่างซึ่งส่งผลเป็นอุปสรรคขัดขวางต่อหลักความเสมอภาคหรือหลักความเท่าเทียมกัน ซึ่งได้แก่ การ
ปฏิบัติที่แตกต่างกันระหว่างสิ่งที่เหมือนกัน หรือการปฏิบัติที่เหมือนกันต่อสิ่งที่ต่างกัน รวมทั้งการปฏิบัติที่เหมือนกัน
แต่ส่งผลให้เกิดความเสียเปรียบต่อบุคคลบางกลุ่ม การปฏิบัติเหล่านี้อาจเรียกได้ว่า“การเลือกปฏิบัติ” ทั้งนี้ หากการ
ปฏิบัติที่แตกต่างนั้น มีลักษณะที่สัมพันธ์กับ “เหตุแห่งการเลือกปฏิบัติ” (Ground of Discrimination) ต่าง ๆ ตาม
ที่กฎหมายก�าหนดไว้ โดยเหตุเหล่านั้นมีความเกี่ยวข้องกับคุณลักษณะเฉพาะของกลุ่มบุคคลในสังคม ซึ่งมักเป็นกลุ่ม
ที่มีความเปราะบางหรือมีประสบการณ์ที่ถูกกีดกัน ถูกผลักให้เป็นกลุ่มชายขอบ (Marginalized Group) โดยการเลือก
ปฏิบัติอาจเกิดขึ้นในมิติต่าง ๆ ของการด�าเนินชีวิตในสังคม เช่น การเลือกปฏิบัติในมิติของการจ้างแรงงานและการ
ประกอบอาชีพ การเลือกปฏิบัติในมิติของการบริการภาครัฐหรือภาคเอกชน เป็นต้น ด้วยเหตุนี้จะเห็นได้ว่าหลักการ
ห้ามเลือกปฏิบัติจะน�าไปสู่ความเท่าเทียมกันในท้ายที่สุด ส�าหรับการศึกษาวิจัยหลักการห้ามเลือกปฏิบัติในงานวิจัยนี้
จึงน�าปัจจัยสองประการซึ่งมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันมาก�าหนดกรอบแนวคิดการวิจัย ได้แก่
๑) เหตุแห่งการเลือกปฏิบัติ (Grounds of Discrimination, Protected Ground)
การปฏิบัติที่แตกต่างกันจะจัดเป็นการเลือกปฏิบัติซึ่งขัดต่อหลักกฎหมายระหว่างประเทศ
เมื่อการปฏิบัตินั้นเกี่ยวข้องกับ “เหตุแห่งการเลือกปฏิบัติ” เมื่อพิจารณาหลักกฎหมายระหว่างประเทศพบว่า เหตุแห่ง
การเลือกปฏิบัติมีการระบุไว้ เช่น
• กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ก�าหนดเหตุแห่งการเลือก
ปฏิบัติครอบคลุม “เชื้อชาติ สีผิว เพศ ภาษา ศาสนา ความคิดเห็นทางการเมืองหรือความ
คิดเห็นอื่นใด ชาติหรือสังคมดั้งเดิม ทรัพย์สิน ก�าเนิด หรือสถานะอื่น” 14
• กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ก�าหนดเหตุแห่งการ
เลือกปฏิบัติครอบคลุม “เชื้อชาติ สีผิว เพศ ภาษา ศาสนา ความคิดเห็นทางการเมืองหรือ
15
ความคิดเห็นอื่นใด ชาติหรือสังคมดั้งเดิม ทรัพย์สิน ก�าเนิด หรือสถานะอื่น”
14
Article 2, Convention on the Rights of Persons with Disabilities (CRPD)
15
From “CCPR General Comment No. 18: Non-discrimination” UN Human Rights Committee (HRC),
November 10, 1989
30