Page 215 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยแผนกลยุทธ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2562
P. 215

รายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Report)

               แผนกลยุทธ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2562


               ความคุ้นเคยดีอยู่แล้วไปสู่การพัฒนาองค์กรที่เคารพสิทธิมนุษยชน เช่น การคํานึงถึงประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน

               ในการประเมินความเสี่ยง รวมไปถึงความสําคัญของการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานการผลิตที่เคารพสิทธิ

               มนุษยชน นอกจากนี้ กสม. ควรที่จะผลักดันการเผยแพร่คู่มือ HRDD  ในภาคปฏิบัติ และท้ายที่สุดแล้ว กสม.
               ควรที่จะมีส่วนให้คําแนะนําทางเทคนิคว่าด้วยการจัดทํารายงานประจําปีเพื่อสร้างมาตรฐานของการดําเนิน

               ธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบซึ่งครอบคลุมทั้งห่วงโซ่อุปทานการผลิต  รวมทั้งการส่งเสริมให้

               บริษัทจัดตั้งกลไกในการขับเคลื่อนภายในองค์กรเพื่อดําเนินงานตามนโยบายของบริษัท เช่น การจัดตั้ง
               คณะกรรมการสนับสนุนมาตรฐานแรงงาน ทั้งนี้  การประกอบธุรกิจที่ได้มาตรฐานจะสะท้อน KPI  ของบริษัท

               และภาพลักษณ์ของประเทศ


                       บทบาทที่สอง ได้แก่ การตรวจสอบร้องเรียนและจัดทําฐานข้อมูลเรื่องร้องเรียน ที่ผ่านมา กสม. ได้รับ
               เรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยภาคธุรกิจเป็นจํานวนมาก ทั้งกรณีที่เกิดขึ้นในประเทศ

               ไทย และต่างประเทศ ทั้งนี้ กสม. เองก็ได้ทําการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนและจัดทําฐานข้อมูลและประมวลผล

               ออกมาเป็นสถิติซึ่งปรากฏอยู่ในรายงานประจําปี ทิศทางการพัฒนาในอนาคต กสม. ควรที่จะพัฒนาต่อยอด
               การจัดทําฐานข้อมูลไปสู่การถอดบทเรียนว่าประเด็นร่วม (common issue) ของธุรกิจแต่ละสาขา และจัดทํา

               ข้อเสนอแนะกับภาคเอกชนถึงแนวทางการปฏิบัติที่ดี ตลอดจนการเฝ้าระวังปัญหาเฉพาะเรื่องที่คาดว่าจะเป็น
               ประเด็นที่สําคัญในช่วงของแผนกลยุทธ์ เช่น เกษตรพันธสัญญา การค้ามนุษย์  แย่งชิงฐานทรัพยากร การ

               ทําลายสิ่งแวดล้อม ปัญหาการจัดสรรทรัพยากรที่ไม่เป็นธรรมรวมทั้งข้อพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างรัฐ เอกชนและ

               ชุมชน

                       บทบาทที่สาม คือ การพัฒนากลไกการไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาทด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งทาง กสม. ได้

               พัฒนาระเบียบว่าด้วยการไกล่เกลี่ยระหว่างผู้ร้องและผู้ถูกร้องเพื่อให้นําไปสู่กระบวนการเยียวยาที่เร็วและลด

               ความขัดแย้งไม่ให้บานปลาย โดยได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการด้านการไกล่เกลี่ยขึ้น การพัฒนากลไกไกล่เกลี่ย
               นอกศาลในกระบวนการแก้ไขข้อพิพาทต่อไป กสม. ควรที่จะมีการสร้างกลไกการคัดกรองเรื่องร้องเรียนว่าเรื่อง

               ใดควรที่จะเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยนอกศาล และเรื่องใดที่ไม่สมควรต้องเข้าสู่กลไกการไกล่เกลี่ยนอกศาล

               โดยกลไกดังกล่าวควรที่จะต้องเคารพในสิทธิของทั้งสองฝ่ายบนพื้นฐานของความสมัครใจเป็นสําคัญ นอกจากนี้
               กสม. ควรที่จะพัฒนาเครื่องมือในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทนอกศาลที่มีความเหมาะสม รวมทั้งพัฒนากลไกการ

               ประเมินตรวจสอบกลไกการไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาทนอกศาลอีกชั้นหนึ่ง

                       บทบาทสุดท้าย ได้แก่ การสร้างเครือข่ายกับภาคธุรกิจ กสม. ได้เริ่มดําเนินการในเชิงบวกเพื่อสร้าง

               เครือข่ายภาคธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชน และนําไปสู่การพัฒนากลไกการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านสิทธิ

               มนุษยชนที่เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ในช่วงของแผนกลยุทธ์ใหม่นี้ ทาง กสม. ควรที่จะสร้างเครือข่ายหลากหลาย
               รูปแบบ ดังนี้ 1) เครือข่ายเพื่อสร้างความตระหนักรู้ 2) เครือข่ายเพื่อผลักดันแนวทางปฏิบัติที่ดี (HRDD)

               3) เครือข่ายเพื่อพัฒนามาตรฐานการจัดทํารายงานประจําปี และ 4) การร่วมมือกับองค์กร หรือสถาบัน

               ตรวจสอบที่ได้รับการยอมรับในสังคมเพื่อสนับสนุนกลไกเกี่ยวกับปัญหาการประกอบธุรกิจและสิทธิมนุษยชน



                                                           4-68
   210   211   212   213   214   215   216   217   218   219   220