Page 123 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยแผนกลยุทธ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2562
P. 123
รายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Report)
แผนกลยุทธ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2562
เสาที่ 1 รัฐมีหน้าที่คุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยจะต้อง
1) จัดล าดับความส าคัญของการด าเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชนและการประกอบธุรกิจทั้ง
ในประเทศและต่างประเทศซึ่งส่งผลกระทบต่อมาเลเซียและอาเซียน ทั้งนี้แบ่งได้ทั้งรายประเด็นและรายธุรกิจ
ที่ส่งผลกระทบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนในมาเลเซีย โดยรายประเด็นได้แก่ การใช้แรงงานต่างด้าวโดยไม่
ชอบ การค้ามนุษย์ แรงงานเด็ก การละเมิดสิทธิชนเผ่าและสิทธิในสิ่งแวดล้อม และในรายธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจ
ไฟฟ้าและภาคการผลิต (น้ ามันปาล์ม) ธุรกิจไม้แปรรูป เป็นต้น ซึ่งจ าเป็นที่จะต้องจ าแนกประเด็นเหล่านี้
ออกมาให้ชัดเจนและจ าแนกหาผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในประเด็นนั้นๆ เพื่อร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป ทั้งนี้
การด าเนินการดังกล่าวควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรู้ความเข้าใจที่เพียงพอของลักษณะและสาเหตุของ
ผลกระทบทางสิทธิมนุษยชน พร้อมด้วยความเห็นของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย
2) ด าเนินการและตรวจสอบการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลของภาคธุรกิจโดยยึดคู่มือ OECD เป็น
หลักในการประกอบธุรกิจเพื่อส่งเสริมให้เกิดการเคารพสิทธิมนุษยชนและจัดหากลไกที่ไม่ใช่ศาลส าหรับการ
ละเมิดสิทธิมนุษยชนจากภาคธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ
3) จัดล าดับความส าคัญของการเสริมสร้างศักยภาพการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการต่อต้านการ
คอรัปชั่น โดยรัฐบาลควรจ าแนกความท้าทายของการบังคับใช้กฎหมายที่เป็นสาเหตุหรือส่งผลให้เกิดการ
ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และด าเนินมาตรการแก้ไขปัญหาเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น จัดสรร
ทรัพยากรที่เพียงพอ การสร้างศักยภาพและเสริมสร้างมาตรการต่อต้านการคอรัปชั่นให้เข้มแข็งผ่านการ
ก าหนดกฎหมายให้ต้องรับผิดกับภาคธุรกิจ
4) ปรับปรุงกลไกเพื่อตอบสนองช่องว่างทางกฎหมายภายใต้กระบวนการ UPR พันธกรณี
สิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และกระบวนการของสถาบันสิทธิมนุษยชนทั้งในประเทศและในระดับภูมิภาค
โดยรัฐบาลควรที่จะน าเอาประเด็นสิทธิมนุษยชนและการประกอบธุรกิจมาจัดท าเป็นรายงานเพื่อเสนอต่อ
กระบวนการ UPR และกระบวนการตามพันธกรณีสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ปรับปรุงความมี
ประสิทธิภาพ ความโปร่งใสและความเสมอภาคของกลไกเพื่อตอบสนองข้อเสนอแนะขององค์กรสิทธิมนุษยชน
ทั้งในระดับประเทศ ระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับช่องว่างทางกฎหมายที่ส่งผล
กระทบต่อสิทธิมนุษยชนจากการด าเนินธุรกิจ ตลอดจนการลงนามและอนุวัติการตามอนุสัญญาสิทธิมนุษยชน
ระหว่างประเทศที่มาเลเซียยังไม่ได้เข้าไปผูกพัน
5) ส่งเสริมการท ารายงานของภาคธุรกิจและการเปิดเผยการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ตลอดจนความเสี่ยงและผลกระทบสิทธิมนุษยชน โดยรัฐควรที่จะทบทวนข้อก าหนดการจัดท ารายงานของภาค
ธุรกิจเพื่อสร้างความชัดเจนว่ารายงานดังกล่าวหรือการเปิดเผยข้อมูลนั้นจะได้รวมข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายและ
กระบวนการเคารพสิทธิมนุษยชนของภาคธุรกิจ พร้อมด้วยข้อมูลที่เกี่ยวกับความเสี่ยงและผลกระทบ
สิทธิมนุษยชน โดยจะก าหนดให้มีลักษณะบังคับหรือโดยสมัครใจก็ให้ขึ้นอยู่กับขนาดและโครงสร้างของธุรกิจ
3-53

