Page 119 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยแผนกลยุทธ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2562
P. 119
รายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Report)
แผนกลยุทธ์ด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2562
ซาราวัคและผลกระทบจากความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific
Partnership :TPP) ด้วยเหตุนี้ ในปี ค.ศ. 2010 SUHAKAM จึงได้ริเริ่มที่จะให้ความส าคัญในประเด็นสิทธิ
มนุษยชนที่เกิดขึ้นใหม่จากภาคธุรกิจ โดยก าหนดให้เป็นหัวใจส าคัญในภารกิจการท างานของคณะกรรมการ
สิทธิมนุษยชนแห่งมาเลเซีย (SUHAKAM)
ในปีค.ศ. 2010-2012 SUHAKAM ได้ด าเนินการส ารวจสิทธิในที่ดินของชนเผ่าพื้นเมืองทั้งประเทศ
โดยได้มีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียทุกๆ ฝ่ายทั้งภาครัฐ NGOs ชนเผ่าพื้นเมือง ชุมชน ภาคเอกชนและบุคคล
ทั่วไป จากนั้นจึงได้มีการคัดเลือกกรณีทั้งหมด 132 คดีเพื่อจัดท าประชาพิจารณ์ครอบคลุมในหลายๆ ประเด็น
อาทิ การเพาะปลูก การท าป่าไม้ โครงการพัฒนาที่ดินของชนเผ่าพื้นเมืองและโครงการพัฒนาของภาคธุรกิจ
ซึ่งประเด็นเหล่านี้ได้เชื่อมโยงถึงความสัมพันธ์และผลกระทบที่ชัดเจนของการประกอบธุรกิจ และขยายไปยัง
มิติทางสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม
นอกเหนือจากการส ารวจทั้งประเทศแล้ว SUHAKAM ยังได้จัดการประชุมโต๊ะกลมเพื่อสร้างความ
ตระหนักรู้ในประเด็นสิทธิมนุษยชนและการประกอบธุรกิจ และได้มีการจ าแนกประเด็นสิทธิต่างๆ ที่ได้รับ
ผลกระทบจากการประกอบธุรกิจออกมาและได้ให้ความส าคัญกับหลักการ UNGP
ในปีค.ศ. 2012 SUHAKAM ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากสถาบัน Raoul Wallenberg เพื่อด าเนินการ
ศึกษาวิจัยหัวข้อ “บทบาทของ SUHAKAM ในการแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชนของภาคธุรกิจ : กรณีศึกษา
ธุรกิจการท าป่าไม้และการเพาะปลูกในประเทศมาเลเซีย” ขึ้น โดยการศึกษาดังกล่าวมีขึ้นเพื่อติดตามประเด็น
ที่เกิดขึ้นจากการส ารวจทั้งประเทศเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินของชนเผ่าพื้นเมือง ทั้งนี้ได้มีการเยี่ยมลงพื้นที่และได้มี
การหารือกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ในปีค.ศ. 2014 SUHAKAM ได้ร่วมมือกับ OHCHR จัดการฝึกอบรมให้กับคณะกรรมการสิทธิฯ
เจ้าหน้าที่และบุคลากรใน SUHAKAM เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและการประกอบธุรกิจ รวมทั้งหลักการ UNGP
แล้วจึงริเริ่มหารือร่วมกับหน่วยงานก ากับดูแลทางภาคธุรกิจ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม
เพื่อให้เข้าใจกับหลักการ UNGP ขึ้น เพื่อส่งเสริมและแลกเปลี่ยนหลักปฏิบัติที่เป็นเลิศและการถอดบทเรียน
จากการด าเนินการตามหลักการ UNGP ตลอดจนความเป็นไปได้ในการร่วมมือกันกับทุกภาคส่วนในการ
ส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและการประกอบธุรกิจในประเทศ
ในปีเดียวกัน SUHAKAM ร่วมกับ UN Country Team ประจ าประเทศมาเลเซียได้รับทุนสนับสนุน
จาก UK Foreign and Commonwealth Office ให้ท าการศึกษาในหัวข้อ “การส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและ
การประกอบธุรกิจในมาเลเซียเพื่อความส าเร็จทางธุรกิจและการเติบโตอย่างครอบคลุม” ซึ่งได้มีการจัดท า
กรอบให้กับรัฐบาลในการจัดท าแผน NAP เพื่อรองรับการด าเนินการตามหลักการ UNGP อีกทั้งยังได้มีการ
แลกเปลี่ยนประสบการณ์จากประเทศอังกฤษเพื่อท าความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดท าแผน NAP พร้อมหน่วยงาน
ภาคธุรกิจและภาคประชาสังคมต่างๆ
3-49

