Page 64 - รายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2558 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 64
(๒) สภาพการณ์และสภาพปัญหาโดยรวมของเหตุการณ์ มิติระหว่างประเทศ ซึ่งส่งผลให้การด�าเนินการสอบสวน
กวาดล้างยาเสพติดในประเทศเม็กซิโก พบว่า ในปี ค.ศ. ๒๐๐๖ ข้อเท็จจริงเป็นไปด้วยดีและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และ
(พ.ศ. ๒๕๔๙) นายเฟลิเป้ คาลเดรอน ประธานาธิบดีของประเทศเม็กซิโก เจ้าหน้าที่ของรัฐได้เรียนรู้เทคนิคและทักษะในการสอบสวน
ได้จัดท�านโยบาย “ท�าสงครามกับยาเสพติด” (the “war on drugs”) การกระท�าอันเป็นการบังคับบุคคลให้สูญหายไปด้วยในตัว ซึ่งเป็นการ
อันน�ามาซึ่งปัญหาการก่ออาชญากรรมร้ายแรงในลักษณะต่าง ๆ เกิดขึ้น ก่ออาชญากรรมที่มีเงื่อนไขการด�าเนินการเป็นการเฉพาะและแตกต่าง
“ในวงกว้าง” “อย่างต่อเนื่อง” และ “อย่างเป็นระบบ” โดยเฉพาะ ไปจากการกระท�าความผิดอาญาทั่วไป (๒) การปฏิบัติตามข้อผูกพัน
อย่างยิ่งปรากฏข้อเท็จจริงว่าในระหว่างระยะเวลาด�าเนินนโยบาย ตามกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ รัฐบาลแห่งประเทศเม็กซิโกมีหน้าที่
ดังกล่าวตลอดหกปีนั้นมีบุคคล “ถูกลักพาตัว” หรือ “ถูกบังคับ ที่จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามพันธกรณีตามที่ก�าหนดไว้ในอนุสัญญา
ให้สูญหาย” อย่างกว้างขวาง (widespread enforced disapperances) ทุกฉบับที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและการกระท�า
เป็นจ�านวนสูงมากถึงขนาดผิดปกติ จากปัญหาดังกล่าวได้ผลักดัน อันเป็นการบังคับบุคคลให้สูญหาย ซึ่งนอกจากการปรับปรุงกฎหมาย
ให้เกิดกระแสการต่อต้านและเรียกร้องอย่างกว้างขวางของประชาชน ภายในประเทศให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การคุ้มครองมิให้บุคคล
ชาวเม็กซิโกที่ได้รับผลกระทบ และกระแสเรียกร้องจากองค์กรต่าง ๆ ถูกบังคับให้สูญหายตามที่ก�าหนดในอนุสัญญาทั้งหลายแล้ว
ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ โดยเฉพาะองค์กรเฝ้าระวังด้าน
สิทธิมนุษยชนที่ต้องการให้รัฐบาลท�าความจริงให้ปรากฏ และเยียวยา
ความเสียหายที่ประชาชนชาวเม็กซิโกผู้บริสุทธิ์จ�านวนมหาศาลได้รับ
จากการด�าเนินนโยบายท�าสงครามกับยาเสพติดที่ใช้ความรุนแรง
ของรัฐบาลของนายเฟลิเป้ฯ โดยนายเอ็นริก เปน่า เนโต้ (Enrique
Pena Nieto) ประธานาธิบดีในสมัยต่อมาของประเทศเม็กซิโก
ได้มีมาตรการในการแก้ไขปัญหา ประกอบด้วยการจัดการในด้านต่าง ๆ
เช่น (๑) การแก้ไขปัญหาในมิติภายในประเทศ รัฐบาลได้จัดตั้ง
“หน่วยงานอัยการพิเศษเพื่อดูแลเหยื่ออาชญากรรม” (the Special
Prosecutor’s Office for Attention to Victims of Crimes -
PROVICTIMA) เพื่อท�าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ แก่ครอบครัว
ของผู้สูญหายเป็นการเฉพาะ และมีความพยายามของครอบครัวของผู้สูญหาย
กลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในการด�าเนินการ
สอบสวนข้อเท็จจริงร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ส่วนการแก้ไขปัญหาใน
จากผลการศึกษาวิจัยได้มีข้อเสนอแนะใน ๒ ลักษณะ ดังนี้ บทที่ ๒ : ผลการด�าเนินงานประจ�าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘
(๑) ข้อเสนอแนะเพื่อการคืนความเป็นธรรมให้แก่ผู้เสียหายและครอบครัวของผู้เสียหาย ประกอบด้วยข้อเสนอแนะ ๓ ประการ ได้แก่
(๑) ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการท�าความจริงให้ปรากฏ (๒) ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการเยียวยาความเสียหายให้แก่ครอบครัวของ
ผู้เสียหาย และ (๓) ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการน�าตัวผู้กระท�าความผิดมาลงโทษ
(๒) ข้อเสนอแนะเพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และป้องกันมิให้องค์กรของรัฐก�าหนดนโยบายที่เป็นการเปิดโอกาสให้มีการกระท�า
อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขึ้นอีกในอนาคต ประกอบด้วยข้อเสนอแนะ ๓ ประการ ได้แก่ (๑) ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการแก้ไข
ปรับปรุงกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของประเทศไทย (๒) ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการปรับปรุงระบบการสืบสวนสอบสวนของ
พนักงานสอบสวนในคดีเกี่ยวกับการกระท�าการอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และ (๓) ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการแก้ไขปรับปรุง
กฎหมายว่าด้วยค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จ�าเลยในคดีอาญา
รายงานผลการปฏิบัติงานประจ�าปี ๒๕๕๘ 63 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ