Page 61 - รายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2558 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 61
๓) การศึกษาวิจัย เรื่อง “การมีส่วนร่วมของประชาชนในการก�าหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ” (ผู้ศึกษาวิจัย :
นายสถิตย์พงษ์ สุดชูเกียรติ)
สาระส�าคัญ เป็นการศึกษาจากกฎหมายที่ ไปกระทบสิทธิของประชาชน ละเมิดสิทธิมนุษยชน และไม่มี
เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่ดินที่ใช้อยู่ในปัจจุบันของหน่วยงาน หน่วยงานใดเข้ามารับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ กระบวนการยุติธรรม
หลักในการบริหารจัดการที่ดินโดยตรง และขอบเขตก�าหนดโดยแผนที่ ที่ใช้กับผู้ที่ถูกระบุว่ากระท�าผิดกฎหมายจากผลของการก�าหนด
แนบท้ายหรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ศึกษาปัญหาอุปสรรคและแนวทางแก้ไข แนวเขตที่ดินของรัฐยังขาดความเป็นธรรม มีการเลือกปฏิบัติ และใช้
ของหน่วยงานเหล่านั้น และศึกษาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการทับซ้อน ระยะเวลานาน กระทบต่อผู้ยากจนที่ถูกด�าเนินคดี ดังนั้น จะเห็นได้ว่า
แนวเขตที่ดินของเขตอนุรักษ์กับที่ดินของรัฐประเภทอื่น ๆ ที่รัฐจัดสรร หากได้ด�าเนินการก�าหนดแนวเขตพื้นที่สงวนหวงห้ามของรัฐ หรือกรณี
ให้กับประชาชน รวมทั้งศึกษาปัญหาข้อขัดแย้งในสิทธิการถือ แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากการก�าหนดแนวเขตไว้แล้ว ให้ประชาชน
ครองท�าประโยชน์ในพื้นที่กรณีศึกษา สาเหตุของปัญหาและการ เข้ามามีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนในการก�าหนดแนวเขตหรือในการแก้ไข
แก้ไขปัญหา รวมไปถึงกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชน ปัญหาที่เกิดขึ้น จะท�าให้รัฐและประชาชนได้ทราบข้อมูลข้อเท็จจริง
โดยก�าหนดพื้นที่กรณีศึกษาตามการร้องเรียนของประชาชนต่อ น�ามาประกอบการตัดสินใจได้อย่างถูกต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
กสม. โดยให้ครอบคลุมลักษณะที่ส�าคัญ คือ การก�าหนดแนวเขตที่ดิน ท�าให้มีการยอมรับไม่มีข้อโต้แย้งส่งผลให้ไม่ต้องมีการให้แก้ไข
ของรัฐทับซ้อนกับพื้นที่ที่อยู่อาศัยและพื้นที่ของชุมชนจ�านวนมาก ปัญหากันอีกในอนาคต
การก�าหนดแนวเขตที่ดินของรัฐทับซ้อนในพื้นที่เดียวกันหลาย
หน่วยงาน และพื้นที่ระบบนิเวศและวิถีชีวิตของชุมชนที่หลาก
หลายแตกต่างกัน โดยได้คัดเลือกพื้นที่ใน ๗ จังหวัด ได้แก่
กาญจนบุรี ราชบุรี นครราชสีมา สกลนคร ล�าปาง สุราษฎร์ธานี และ
พัทลุง
ผลจากการศึกษาวิจัย พบว่า การมีส่วนร่วม
ของประชาชนไม่มีความก้าวหน้าเท่าที่ควร และไม่มีความสัมพันธ์กัน
ระหว่างการมีส่วนร่วม ข้อมูลข่าวสาร และการกระจายอ�านาจ ในการ
พิจารณาออกกฎกระทรวงหรือพระราชกฤษฎีกา ก�าหนดให้มีแผนที่
แนบท้ายอันถือเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายมีความล่าช้า เกิดความ
ผิดพลาด และไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงในพื้นที่ที่ก�าหนดในรูปแผนที่
ในการจ�าแนกที่ดิน และการก�าหนดแนวเขตที่ดินเพื่อการพัฒนา
ประเทศและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติล้าสมัย และไม่เป็นไปตาม
ข้อเท็จจริงตามความเหมาะสมในการใช้ประโยชน์ตามศักยภาพ
ของพื้นที่ การก�าหนดแนวเขตที่ดินของรัฐมีการทับซ้อนกันและไม่
สามารถตกลงกันได้ในปัญหาการทับซ้อนแนวเขตระหว่างหน่วยงาน และ
หน่วยงานของรัฐก�าหนดแนวเขตโดยประชาชนไม่ทราบข้อมูลในพื้นที่จริง
แม้พบข้อผิดพลาดก็ยังไม่ได้มีการแก้ไขหรือแก้ไขล่าช้า ประชาชน
หรือผู้มีส่วนได้เสียไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการด�าเนินงาน ท�าให้เกิดการ
โต้แย้งและไม่ยอมรับ ทั้งยังขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนในการ
อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ที่มีผลกระทบกับระบบนิเวศ
ส่งผลถึงประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่ถูกก�าหนดขอบเขตให้เป็นเขต
พื้นที่สงวนหวงห้ามของรัฐเป็นผู้กระท�าผิดตามกฎหมาย วิถีชีวิตที่เปลี่ยน
รายงานผลการปฏิบัติงานประจ�าปี ๒๕๕๘ 60 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ