Page 63 - รายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2558 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 63

(๑) สภาพการณ์และสภาพปัญหาโดยรวมจากนโยบาย           นอกจากนี้ ผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานต่าง ๆ ของ
           ของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดของ   รัฐที่เกี่ยวข้องกับการด�าเนินนโยบาย ตลอดจนผู้รับผิดชอบในการ
           รัฐบาล เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖ พบว่า (๑) ปัญหาของการก�าหนดและ   ก�ากับดูแลศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดในระดับต่าง ๆ
           การด�าเนินนโยบายในการท�าสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดของรัฐบาล   ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้ก�าหนดกฎเกณฑ์หรือแนวปฏิบัติแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ
           สะท้อนให้เห็นปัญหาในทุกชั้นของการด�าเนินการ โดยแบ่งออกได้เป็น    ที่เกี่ยวข้องเพื่อด�าเนินการให้บรรลุเป้าหมายตามนโยบายที่นายกรัฐมนตรี
           ๔ ชั้น ได้แก่ ชั้นที่หนึ่ง: ชั้นการก�าหนดนโยบายของรัฐบาลในการท�า   ก�าหนด เมื่อผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐเหล่านี้ได้รับ
           สงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพ ชั้นที่สอง: ชั้นการน�านโยบายของ   รายงานการด�าเนินนโยบายดังกล่าวจากเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการหรือ
           รัฐบาลในการท�าสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดไปสู่การปฏิบัติ    หน่วยงานปฏิบัติต่าง ๆ กลับมิได้เสนอให้ยับยั้งการด�าเนินการของ
           ชั้นที่สาม: ชั้นผลการปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลในการท�าสงคราม   เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ผิดพลาดแต่อย่างใด อีกทั้งเมื่อมีการรายงาน
           ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด และ ชั้นที่สี่: ชั้นการช่วยเหลือเยียวยา   การเสียชีวิตของประชากรพลเรือนจ�านวนมากทั่วภูมิภาคของ
           ผู้ได้รับผลกระทบจากการด�าเนินนโยบายดังกล่าว (๒) สถานะทาง   ประเทศไทย และรายงานข้อมูลคดีที่ครอบครัวของผู้เสียหาย
           กฎหมายของการก�าหนดและการด�าเนินนโยบายในการท�าสงคราม   ร้องเรียนต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งพนักงานสอบสวนเสนอให้
           ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดของรัฐบาลฯ มีองค์ประกอบความผิด   งดการสอบสวนโดยมิชอบ ผู้บริหารระดับสูงเหล่านี้ก็มิได้สั่ง
           เข้าลักษณะของการก่อ “อาชญากรรมร้ายแรงระหว่างประเทศ”   การให้มีการตรวจสอบหรือสอบสวนการเสียชีวิตของประชากร
           ในลักษณะของการก่อ “อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ” (“Crime against   พลเรือนในช่วงเวลาดังกล่าว และมิได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน
           humanity”) ตามนัยแห่งข้อ ๗ ของธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาล   ปฏิบัติการสืบสวนสอบสวนคดีอาญาให้ถูกต้องชอบธรรม
           อาญาระหว่างประเทศ (The Rome Statute of the International    ตามหลักนิติธรรม (Rule of Law) และนิติรัฐ (Legal State)
           Criminal Court) ซึ่งธรรมนูญกรุงโรมฯ มีสถานะเป็น “กฎหมาย  แต่ประการใด หากแต่ปล่อยให้พนักงานสอบสวนด�าเนินการเช่นนั้น
           บังคับเด็ดขาด” (“jus cogens”) เหนือกฎเกณฑ์หรือบทบัญญัติแห่ง  ซึ่งส่งผลกระทบต่อการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชากรพลเรือน
           กฎหมายใด ๆ ภายในของประเทศต่าง ๆ นโยบายดังกล่าวเป็นการ  อย่างกว้างขวางและเป็นจ�านวนมาก เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองระดับสูง
           ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ เนื่องจากเป็นการกระท�าที่ก่อให้เกิด  เหล่านี้จึงมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๑๕๗
           การกระท�าความผิดอาญาในลักษณะต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการ  แห่งประมวลกฎหมายอาญาด้วย
           บังคับบุคคลให้สูญหาย การฆ่าคนตาย การยึดทรัพย์สินโดยมิชอบ
           ซึ่งการกระท�าความผิดอาญาต่าง ๆ เหล่านี้ล้วน “เป็นส่วนหนึ่ง”
           ของ “การโจมตี” หรือ “การประทุษร้าย” ต่อ “ประชากรพลเรือน”
           (“attack directed against any civilian population”) “ในวงกว้าง”
           (“widespread”) หรือ “อย่างเป็นระบบ” (“systematic”)
































                                    รายงานผลการปฏิบัติงานประจ�าปี ๒๕๕๘  62  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68