Page 36 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ประจำปี 2558
P. 36

รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ปี ๒๕๕๘






















              ในการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนตามแนวทาง          ที่ชัดเจน  เป็นไปเพื่อเหตุผลที่ชอบธรรม รัฐไม่สามารถหา
              ข้างต้นรายงานยังได้ค�านึงถึงหลักกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่าง  วิธีการอื่นมาทดแทนได้ และการใช้อย่างจ�ากัดและเท่าที่จ�าเป็น
              ประเทศที่ก�าหนดนัยส�าคัญอื่น ๆ ในการส่งเสริมและคุ้มครอง  ได้สัดส่วนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ และเป็นมาตรการจ�าเป็น
              สิทธิมนุษยชน อาทิ สิทธิบางประการที่เป็นสิทธิแบบเบ็ดเสร็จ   ในสังคมประชาธิปไตย เป็นต้น หรือกรณีที่สิทธิบางประเภทที่
              เด็ดขาด (Non-Derogable Rights) ซึ่งมิอาจเพิกถอนหรือ  รัฐจะสามารถท�าให้ก้าวหน้าหรือเป็นจริงได้ อาจต้องด�าเนินการ
                                                ๕
              ลิดรอนได้ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม  เช่น สิทธิที่จะ   อย่างค่อยเป็นค่อยไปภายใต้ทรัพยากรที่มีอยู่ (Progressive
              มีชีวิตอยู่ สิทธิที่จะไม่ถูกทรมาน และในกรณีที่เป็นสิทธิที่รัฐ   Realization of Rights) แต่รัฐก็จ�าเป็นต้องแสดงความมุ่งมั่น
              อาจจ�ากัดหรือเพิกถอนได้ชั่วคราว  (Derogable  Rights)    และมีแนวทางการด�าเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม กล่าวคือ
              ในบางสถานการณ์ที่กฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ    มีการก�าหนดให้บรรลุเป้าหมายที่ชัดเจน (Progressive
              ยินยอมให้รัฐกระท�าได้เพื่อวัตถุประสงค์บางประการ ได้แก่ ความ  Achievement) เช่น มีแผนการปฏิบัติงาน ระยะเวลา
              มั่นคงของชาติ ความสงบเรียบร้อย การสาธารณสุข หรือเพื่อ   ก�าลังบุคลากร ผู้รับผิดชอบ และการติดตามผลการปฏิบัติ
                    ๖
              ศีลธรรม  โดยรัฐต้องด�าเนินการตามแนวทางที่เป็นที่ยอมรับ  อย่างแท้จริง มีการจัดสรรทรัพยากรอย่างเพียงพอ/เหมาะสม
              ตามกฎหมายระหว่างประเทศ เช่น มีการบัญญัติไว้เป็นกฎหมาย   (Maximum Available Resources) และไม่มีการเลือกปฏิบัติ
                                                                  (Non-discrimination)




              ดังนั้น กสม. จะได้น�าเกณฑ์และแนวทางดังกล่าวข้างต้นมาประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในรายงานฉบับนี้ ทั้งนี้ ด้วยความพยายาม
              ในการจัดท�ารายงานที่เสนอข้อมูลที่เป็นกลาง ปราศจากอคติ หรือมีข้อกังขาเกี่ยวกับที่มาของข้อมูลให้มากที่สุด กสม. จึงพยายาม
              ใช้ข้อมูลปฐมภูมิที่ได้จากการปฏิบัติงานโดยตรง ทั้งจากการติดตามตรวจสอบกรณีร้องเรียน การติดตามสอบถามหน่วยงานปฏิบัติ
              ทั้งภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนการปฏิบัติงานอื่น ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นส่วนส�าคัญ ในขณะที่จะตรวจสอบความถูกต้อง
              และความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ประกอบในบางส่วน



              อนึ่ง ในกระบวนการจัดท�ารายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยที่ผ่านมาขององค์กร พบว่า กลไกและกระบวนการ
              ติดตามประเมินสถานการณ์มีลักษณะเฉพาะกิจ โดยมีเป้าหมายในการจัดท�ารายงานประจ�าปี มากกว่าการด�าเนินงานเฝ้าระวัง
              และประเมินสถานการณ์อย่างเป็นระบบและต่อเนื่องเพื่อน�าผลของการเฝ้าระวังมารวบรวม วิเคราะห์ สังเคราะห์ เพื่อจัดท�า  บทที่ ๑ กรอบการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชน
              เป็นรายงานในแต่ละปี  กสม.  จึงได้เริ่มพัฒนากลไกเฝ้าระวัง  ติดตาม  ตรวจสอบ  และประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชน
              อย่างเป็นระบบ (Monitoring, Evaluation and Reporting Mechanism) เพื่อให้สอดคล้องกับบทบาทหน้าที่ของ NHRIs
              ตามหลักการปารีสยิ่งขึ้น โดยเริ่มจากการจัดท�ารายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ประจ�าปี ๒๕๕๘ อย่างไรก็ดี
              การพัฒนากลไกดังกล่าว จ�าเป็นต้องพัฒนาระบบการด�าเนินงานภายในองค์กร การพัฒนาศักยภาพบุคลากรและระบบฐานข้อมูล ซึ่งคาดว่า
              จะใช้ระยะเวลาหนึ่งเพื่อให้กลไกการด�าเนินงานมีความสมบูรณ์ และสามารถด�าเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเต็มที่





              ๕   ได้แก่ สิทธิที่ปรากฏตามข้อ ๖ ข้อ ๗ ข้อ ๘ ข้อ ๑๑ ข้อ ๑๕ ข้อ ๑๖ และข้อ ๑๘ ตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR)
              ๖   ข้อ ๑๙ (๓) ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR)
                                                                                                            6
   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41