Page 126 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ประจำปี 2558
P. 126
รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ปี ๒๕๕๘
๔ การประเมินสถานการณ์
สถานการณ์ด้านสิทธิด้านสุขภาพในปี ๒๕๕๘ กสม. เห็นว่า รัฐบาลได้มีความพยายามที่จะด�าเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้การ
ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิด้านสุขภาพบรรลุผลเป็นจริง โดยมีการประกันสิทธิด้านสุขภาพ ด้วยการสร้างความก้าวหน้าในการ
ด�าเนินงานสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ที่ครอบคลุมประชาชนชาวไทยร้อยละ ๙๙.๙๒ ของประชากรทั้งหมดของประเทศ
โดยผ่านระบบการบริหารจัดการโดยรัฐ ๓ ระบบ ได้แก่ ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ระบบประกันสังคม และระบบสวัสดิการ
ข้าราชการ รวมทั้งรัฐบาลได้พยายามแสวงหาแนวทางที่ยั่งยืนในการให้บริการด้านสุขภาพที่จะรองรับกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร
ของประเทศที่จะเข้าสู่สภาวะคนสูงอายุที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคตอันใกล้ โดยอาจให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทร่วมในการบริหารจัดการ
ระบบการให้บริการด้านสุขภาพในรูปแบบประกันสุขภาพเอกชน เพื่อให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยสามารถเลือกการท�าประกันสุขภาพเป็นทางเลือก
ใหม่ในการเข้าถึงสิทธิในการรับบริการด้านสุขภาพให้กับตนเอง หรือท�าให้กับบิดา มารดา หรือคู่สมรส โดยอาจได้รับสิทธิในการลดหย่อนภาษี
เช่นเดียวกับการซื้อประกันชีวิตเป็นประโยชน์ต่างตอบแทน อย่างไรก็ดี ยังมีกลุ่มนักวิชาการด้านสุขภาพและผู้ที่เกี่ยวข้องยังได้แสดง
ความเห็นด้วยในการน�าระบบการให้บริการด้านสุขภาพไปอยู่ในระบบประกันเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการให้บริการขั้นพื้นฐาน
คุณภาพและต้นทุนการบริหารจัดการ
นอกจากนี้ รัฐบาลได้พัฒนานโยบายสาธารณะด้านสุขภาพอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง โดยจัดท�าแผนยุทธศาสตร์สุขภาพโลกของประเทศไทย บทที่ ๔ สถานการณ์สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๖๓ แผนยุทธศาสตร์ทศวรรษก�าลังคนด้านสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๙ และแผนยุทธศาสตร์ระบบบริการสุขภาพ
เขตเมือง เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในระบบสุขภาพ การสร้างขีดความสามารถของบุคลากรและองค์กรด้านสุขภาพให้เข้มแข็งโดยมีก�าลังคน
ที่เพียงพอในการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ และมีระบบการบริหารจัดการที่ดี ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ประชาชนได้รับสิทธิที่ดี
ในการเข้าถึงการบริการด้านสุขภาพ รวมทั้งได้มีความพยายามด�าเนินการต่าง ๆ เพื่อยืนยันว่าสิทธิด้านสุขภาพเป็นสิทธิที่สามารถจะบรรลุผล
ได้จริง และมีความก้าวหน้าในการท�าให้ประชาชนชาวไทยเกิดสิทธิที่ดีขึ้นในการเข้ารับบริการอย่างมีประสิทธิภาพ โดย
• การน�ากระบวนการรับรองคุณภาพของโรงพยาบาล ในวัยรุ่น ผ่านการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์การป้องกัน
(Hospital Accreditation) มาใช้ในการพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพ และแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. ๒๕๕๘ - ๒๕๖๗
การบริการให้ดีขึ้น และการตรา “(ร่าง) พระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไข
ปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ. ....”
• การพัฒนาการบริหารจัดการในระบบปฏิบัติการฉุกเฉิน
โดยให้สถานพยาบาลที่ให้การรักษาผู้ป่วยในกรณีฉุกเฉิน หรือ • การมีแนวโน้มที่จะรับรองสิทธิในการเข้าถึงการเยียวยา
อุบัติเหตุ เรียกเก็บเงินค่ารักษาพยาบาลโดยตรง (Emergency Claim จากรัฐ ในกรณีที่ได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาล
Online: EMCO) กับส�านักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อให้ ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยกระทรวงสาธารณสุข
ประชาชนเกิดสิทธิในการเข้ารับบริการอย่างทันท่วงทีในกรณีจ�าเป็น ได้ด�าเนินการ (ร่าง) ตราพระราชบัญญัติกองทุนคุ้มครองผู้ได้รับ
และเร่งด่วน โดยมิต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ผลกระทบจากการบริการสาธารณสุข พ.ศ. ....
• การน�าหลักการบริหารแบบกระจายอ�านาจมาใช้ในการ
บริหารจัดการด้านสุขภาพ ภายใต้หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
โดยสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามาบริหาร
การจัดการการบริการด้านสุขภาพ ซึ่งประชาชนจะเข้าถึง
การให้บริการได้ง่ายขึ้น
• การจัดตั้งคลินิกวัยรุ่นในโรงพยาบาลในสังกัดของกระทรวง
สาธารณสุขทั่วประเทศไทย ท�าให้กลุ่มวัยรุ่นสามารถเข้าถึงสิทธิ
ด้านสุขภาพทางเพศและอนามัยเจริญพันธุ์ได้ดีขึ้น ซึ่งการ
ด�าเนินการดังกล่าวนี้สอดคล้องกับนโยบายการป้องกันและแก้ไข
เชิงบูรณการในประเด็นการตั้งครรภ์และการยุติการตั้งครรภ์
96