Page 91 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 91

การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงในประเทศต่างๆ  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน  ประเทศ
               ญี่ปุ่น  ประเทศรัสเซีย  จึงท�าให้เกิดความคิดที่จะผลักดันให้เรื่องของสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องระหว่างประเทศ  หรือเป็น  “สิทธิระหว่าง

               ประเทศ”  (International  Rights)  ที่ทุกประเทศต้องเข้าไปดูแลช่วยเหลือเพื่อยกระดับมาตรฐานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนให้ดียิ่งขึ้น
               และร่วมมือกันด�าเนินการกับประเทศที่กระท�าการละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชนภายในประเทศของตนหรือประชาชนประเทศอื่นๆ
                                                                   158
               โดยถือว่าการเข้าแทรกแซงนั้นชอบด้วยหลักกฎหมายระหว่างประเทศ   ดังนั้น  ปัจจุบันรัฐใดรัฐหนึ่งจึงไม่อาจอ้างได้ว่าสิทธิมนุษยชน
               เป็นเรื่องที่ “ตกอยู่เขตอ�านาจภายในของรัฐ” (Domestic Jurisdiction) ของตนโดยเด็ดขาดได้อีกต่อไป แต่ได้วิวัฒนาการมาเป็น
               “สิทธิระหว่างประเทศ” (International Rights) ที่รัฐซึ่งเป็นภาคีแห่งข้อตกลงระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนอาจอ้างข้อตกลงนั้นๆ
               เข้าตรวจสอบ  หรือมีมติให้ใช้มาตรการอย่างใดอย่างหนึ่ง  เพื่อยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือแก้ไขเยียวยาความเดือดร้อนอันเกิดจาก
                                              159
               การละเมิดสิทธิมนุษยชนในรัฐใดรัฐหนึ่งได้
                                      การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนจึงปรากฏให้เห็นทั้งในกฎหมายภายในแห่งรัฐและกฎหมายระหว่างประเทศที่

               รัฐหนึ่งๆ เข้าเป็นภาคี ให้การรับรอง หรือให้สัตยาบัน นอกจากนี้ เมื่อรัฐมีข้อผูกพันหรือพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศต่างๆ แล้ว
               รัฐย่อมมีหน้าที่จะต้องให้ความคุ้มครองแก่สิทธิมนุษยชนของประชาชนทุกคนในรัฐของตน

                                      ดังนั้น ในส่วนนี้ จะได้กล่าวถึง (๒.๑) ที่มาแห่งข้อผูกพันหรือพันธกรณีของรัฐในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
               และ (๒.๒) หน้าที่ของรัฐในการให้ความคุ้มครองสิทธิมนุษยชน

                                      (๒.๑) ที่มาแห่งข้อผูกพันหรือพันธกรณีของรัฐในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
                                           ดังที่ได้กล่าวแล้วข้างต้น รัฐทุกรัฐมีหน้าที่ให้ความคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของบุคคลทุกคนมิให้ถูก
               ล่วงละเมิดหรือมีการกระท�าการฝ่าฝืนโดยมิชอบ  หน้าที่เช่นนั้นของรัฐมีที่มาทั้งจากกฎหมายภายในของรัฐหนึ่ง  และกฎหมายระหว่าง

               ประเทศที่รัฐหนึ่งเข้าเป็นภาคี ให้การรับรอง หรือให้สัตยาบัน
                                           โดยนัยดังกล่าว ข้อผูกพันหรือพันธกรณีของรัฐในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนจึงมีที่มาในสองระดับ

               ได้แก่ (๒.๑.๑) ข้อผูกพันของรัฐตามกฎหมายภายในแห่งรัฐ และ (๒.๑.๒) พันธกรณีของรัฐตามกฎหมายระหว่างประเทศ
                                           (๒.๑.๑) ข้อผูกพันของรัฐตามกฎหมายภายในแห่งรัฐ
                                                  โดยทั่วไปแล้ว รัฐแต่ละแห่งมักจะก�าหนดบทบัญญัติเพื่อรับรองและให้ความคุ้มครอง

               สิทธิมนุษยชนของประชาชนทุกคนไว้ในกฎหมาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายในระดับสูงสุดของรัฐ กล่าวคือ รัฐธรรมนูญ ตัวอย่าง
               เช่น สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี สาธารณรัฐฝรั่งเศส ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่งประเทศไทย ดังนั้น จึงกล่าว

               ได้ว่าสิทธิมนุษยชนซึ่งได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดของรัฐแต่ละแห่งจึงมี  “คุณค่า”  หรือ  “สถานะทาง
               กฎหมาย” (legal value or status) ในระดับรัฐธรรมนูญเลยทีเดียว รัฐจึงมีข้อผูกพันหรือหน้าที่ที่จะต้องรับประกันและคุ้มครอง
               สิทธิมนุษยชนของประชาชนพลเมืองแห่งรัฐตนให้ได้รับการเคารพโดยเสมอภาคและเท่าเทียมกันและโดยปราศจากการแบ่งแยกหรือ

               การเลือกปฏิบัติอันมิชอบ  และมีหน้าที่จะต้องก�าหนดมาตรการเพื่อคุ้มครองมิให้มีการกระท�าอันเป็นการแทรกแซง  (interference)
               หรือการละเมิด  (violation)  สิทธิมนุษยชนจากการกระท�าของปัจเจกชน  และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง  รัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้อง
               ไม่กระท�าการอันเป็นการแทรกแซงหรือการละเมิดสิทธิมนุษยชนของบุคคลโดยมิชอบเสียเอง

                                           (๒.๑.๒) พันธกรณีของรัฐตามกฎหมายระหว่างประเทศ
                                                   นอกจากรัฐแต่ละแห่งจะมีข้อผูกพันหรือหน้าที่ที่จะต้องเคารพและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
               ตามที่ก�าหนดไว้ในกฎหมายภายในดังกล่าวข้างต้นแล้ว หน้าที่ที่จะต้องรับประกันและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของรัฐยังอาจจะมีที่มา

               จากข้อผูกพันหรือพันธกรณีตามกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศอีกด้วย



                       158
                          เพิ่งอ้าง, น. ๒๓.
                       159
                          เพิ่งอ้าง, น. ๕.


               70
               ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖
   86   87   88   89   90   91   92   93   94   95   96