Page 81 - รายงานการศึกษา ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. 2546
P. 81
หน้าที่ที่จะสอบสวน ด�าเนินคดี และลงโทษผู้กระท�าความผิดเกี่ยวกับการบังคับบุคคลให้สูญหาย ตลอดจน
การเยียวยาการกระท�าอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการก่ออาชญากรรมร้ายแรงเช่นนั้น ย่อมผูกพันรัฐ
ทั้งหลายที่เป็นภาคีสนธิสัญญาต่างๆ เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนดังกล่าวข้างต้น โดยนัยดังกล่าว รัฐบาลแห่งเม็กซิโกจึงมีหน้าที่ส�าคัญที่จะต้อง
ด�าเนินมาตรการต่างๆ ที่จ�าเป็น เพื่อด�าเนินการสอบสวนคดีเกี่ยวกับการบังคับบุคคลให้สูญหายที่เกิดขึ้นแก่ประชาชนชาวเม็กซิโกอย่าง
แพร่หลายและในวงกว้าง เพื่อท�าให้ความจริงปรากฏ และน�าตัวผู้กระท�าความผิดมาลงโทษ คณะกรรมาธิการแห่งสหประชาชาติด้าน
สิทธิมนุษยชนก�าหนดโดยชัดเจนว่า รัฐภาคีมีหน้าที่ที่จะต้องแก้ไขปัญหา ตลอดจนการสอบสวนอย่างแท้จริงเกี่ยวกับการสูญหายและ
ชะตากรรมของผู้สูญหาย (a thorough and effective investigtion) การให้ข้อมูลที่เพียงพอ (adequate information) อันเกี่ยวกับ
ผลของการสอบสวน การชดใช้ค่าเสียหายที่เหมาะสม (adequate compensation) ให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบ และก�าหนดมาตรการที่
จะป้องกันการกระท�าอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในท�านองเดียวกันในอนาคต กล่าวโดยเฉพาะรัฐบาลเม็กซิโกมีหน้าที่เฉพาะตาม
113
ที่ก�าหนดในอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ ค.ศ. ๒๐๐๖ ในการรับรอง
สิทธิของบุคคลที่จะรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการท�าให้บุคคลสูญหายต่อหน่วยงานของรัฐที่มีอ�านาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สิทธิดังกล่าว
ย่อมน�ามาซึ่งหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐที่จะต้องด�าเนินการสอบสวนทางอาญาเกี่ยวกับการบังคับบุคคลให้สูญหาย และรัฐบาลย่อม
มีหน้าที่ที่จะต้องด�าเนินมาตรการที่เหมาะสมที่จะท�าให้ผู้กล่าวหา พยาน ญาติของผู้สูญหาย ตลอดจนบุคคลทั้งหลายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
114
การสอบสวน ได้รับความคุ้มครองจากการคุกคามข่มขู่อันเป็นผลมาจากการฟ้องร้องหรือการให้หลักฐานใดๆ
(๒) การเยียวยาความเสียหายแก่เหยื่อหรือผู้ได้รับผลกระทบ
การเยียวยาความเสียหายแก่เหยื่อ (หรือผู้ได้รับผลกระทบ) มิได้ประกอบด้วยการชดใช้ค่าเสียหายที่ญาติหรือ
บุคคลในครอบครัวของผู้สูญหายได้รับจากการที่บุคคลอันเป็นที่รักของตนถูกบังคับให้สูญหายไปแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่
ยังครอบคลุมถึงการทราบเกี่ยวกับความจริงที่เกิดขึ้นด้วย ดังนั้น อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันบุคคลทุกคนจากการหาย
สาบสูญโดยถูกบังคับ ค.ศ. ๒๐๐๖ จึงก�าหนดและรับรองสิทธิของเหยื่อ (หรือผู้ได้รับผลกระทบ) ในการทราบความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์
การบังคับบุคคลให้สูญหาย ความคืบหน้าและผลของการสอบสวนและชะตากรรมของบุคคลผู้สูญหายไป รัฐบาลเม็กซิโกจึงมีหน้าที่
ที่จะต้องด�าเนินมาตรการต่างๆ ที่จ�าเป็นเพื่อการดังกล่าว 115 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รัฐบาลเม็กซิโกจะต้องด�าเนินมาตรการต่างๆ ที่เหมาะสม
เพื่อการค้นหา ระบุสถานที่อยู่ และปล่อยตัวบุคคลผู้สูญหายไป และในกรณีที่บุคคลผู้สูญหายไปถึงแก่ความตาย ระบุสถานที่อยู่
ให้ความเคารพ และคืนศพของบุคคลนั้นแก่ครอบครัว 116
ในส่วนที่เกี่ยวกับการเยียวยาความเสียหายแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการบังคับบุคคลให้สูญหาย ดังที่ได้กล่าวแล้ว
ข้างต้น รัฐบาลเม็กซิโกย่อมมีพันธกรณีตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ในการด�าเนินการต่างๆ
เพื่อให้ผู้ได้รับผลกระทบจากการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของตนตามที่ก�าหนดในกติการะหว่างประเทศนี้ได้รับการพิจารณาโดยองค์กร
117
ที่มีอ�านาจหน้าที่ตามกฎหมาย และได้รับการเยียวยาความเสียหายอย่างแท้จริง
อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ ค.ศ. ๒๐๐๖ ยังได้
ก�าหนดให้รัฐภาคีรับรองสิทธิของเหยื่อ (หรือผู้ได้รับผลกระทบ) ในการได้รับการเยียวยาและชดใช้ค่าเสียหายโดยทันที ที่เป็นธรรมและ
118
เหมาะสม (prompt, fair and adequate compensation) ทั้งนี้ สิทธิในการได้รับการเยียวยาครอบคลุมทั้งความเสียหายทาง
113
International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance, Article 12 and 24.
114
International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance, Article 12 (1).
115 International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance, Article 24 paragraph 2.
116
International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance, Article 24 paragraph 3.
117 International Covenant on Civil and Political Rights, Article 2, paragraph 3 (a) (b) (c)
118
International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance, Article 24 paragraph 4.
60
ปัญหาและผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนจากนโยบายของรัฐบาลในการประกาศสงครามต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖