Page 68 - รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการวิจัยการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทย และความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน
P. 68
ขั้นตอนที่ ๙ ในขณะเดียวกันนายจ้างก็จะต้องเดินทางมายังสํานักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว
เพื่อที่จะช่วยเหลือแรงงานในกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง โดยในการเดินทางเข้ามายังประเทศไทย
แรงงานจะต้องยื่นขอวีซ่าและขออยู่อาศัยในราชอาณาจักรจากสํานักงานด่านตรวจคนเข้าเมือง โดย
แรงงานที่นําเข้า ๑๐,๐๐๐ คนแรก จะต้องชําระค่าวีซา ๕๐๐ บาท ต่อคน จากอัตราปกติอยู่ที่ ๒,๐๐๐
บาท ต่อคน โดยวีซ่าจะมีอายุสองปี และสามารถต่ออายุได้อีกสองปี ในกรณีที่แรงงานต้องการเดินทาง
กลับไปประเทศตนหลังจากที่ได้เข้ามาทํางานในประเทศไทยแล้ว แรงงานจะต้องขออนุญาตกลับเข้ามาใหม่
ในราชอาณาจักร หรือขอวีซ่าสําหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักรได้หลายครั้ง (multiple entry) ก่อนที่
จะเดินทางกลับไปและเดินทางกลับมาที่ประเทศไทย
ขั้นตอนที่ ๑๐ สําหรับแรงงานที่ใบรับรองแพทย์หมดอายุ (ใบรับรองแพทย์เกินหกสิบวัน
หลังจากที่ได้ตรวจสุขภาพแล้ว ตามขั้นตอนที่ ๖ เมื่อเดินทางเข้ามาทํางานยังประเทศไทยจะต้องไปตรวจ
สุขภาพซ้ําอีกครั้ง ซึ่งจะทําการตรวจสุขภาพที่สถานพยาบาลบริเวณชายแดนไทยที่ตนไปพิสูจน์สัญชาติ
หรือที่จังหวัดในประเทศไทยที่แรงงานทํางานก็ได้
ขั้นตอนที่ ๑๑ แรงงานจะต้องยื่นขอรับใบอนุญาตทํางาน ณ สํานักงานจัดหางานจังหวัด
หรือสํานักงานจัดหางานกรุงเทพฯเขตพื้นที่ ภายในสามสิบวันหลังจากได้รับวีซ่า ทั้งนี้อัตราค่าธรรมเนียม
ใบอนุญาตทํางานจะแตกต่างกัน ตามกฎกระทรวงกําหนดค่าธรรมเนียมการทํางานและการจ้างคนต่างด้าว
พ.ศ. ๒๕๒๒
หน้าที่ที่แรงงานต้องปฏิบัติคือ ต้องไปรายงานตัวที่สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง ทุก ๙๐ วัน ซึ่งจะ
เห็นได้ว่า MOU นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดระบบการนําเข้าแรงงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยให้นายจ้าง
ขออนุญาตนําเข้าแรงงานตามความจําเป็น เมื่อได้รับอนุญาตก็ติดต่อให้บริษัทจัดหางานในประเทศต้นทาง
จัดหาแรงงานและดําเนินการทางเอกสารให้ครบถ้วน กระทั่งนําพาแรงงานมาทํางานในสถานประกอบการ
ที่ปลายทาง ข้อตกลงนี้มุ่งหวังจะสร้างความร่วมมือในการคุ้มครองสิทธิแรงงาน การส่งกลับเมื่อครบสัญญา
จ้าง และการปูองกันปราบปรามการข้ามแดน การค้าแรงงาน และการจ้างแรงงานโดยผิดกฎหมายด้วย
แต่ถึงป๎จจุบันนี้การดําเนินการตาม MOU ประสบความสําเร็จน้อยมาก ดังเห็นได้จากจํานวน
นําเข้าแรงงานที่ทําได้ไม่ถึงร้อยละ ๑๐ จากยอดที่นายจ้างแจ้งความประสงค์ การพิสูจน์สัญชาติเพื่อ
ปรับเปลี่ยนสถานะแรงงานผิดกฎหมายให้ถูกกฎหมายทําได้ล่าช้า การคุ้มครองสิทธิและอื่นๆ ก็ยังติดขัดไม่
เกิดผล สิ่งสําคัญที่ฟูองถึงสถานการณ์ป๎ญหาที่ยังไม่ดีขึ้น ก็คือ การที่ รัฐบาลยังต้องใช้นโยบายผ่อนผันให้
แรงงานเข้าเมืองผิดกฎหมายมาขึ้นทะเบียนทํางานชั่วคราว ปีแล้วปีเล่า ซึ่งเท่ากับยอมรับว่า การจัดระบบ
แรงงานให้เข้าสู่การควบคุมตามกฎหมายยังไม่ประสบความสําเร็จตามที่หวังไว้
พฤกษ์ เถาถวิล และสุธีร์ สาตราคม ทําการศึกษาเรื่อง “ป๎ญหาและอุปสรรคในการดําเนินการ
ตามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการจ้างแรงงาน : กรณีศึกษาความร่วมมือไทย-ลาว” ได้รับ
ทุนสนับสนุนการวิจัยจาก สํานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) พบว่ามีป๎ญหา อุปสรรค ดังนี้
ประการแรก MOU ไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านการจ้างแรงงาน ที่หวังให้เป็นกลไกนําเข้า
แรงงานอย่างถูกกฎหมาย มีป๎ญหาทางปฏิบัติอย่างมาก เป็นที่ทราบกันดีว่าค่าใช้จ่ายของนายจ้างในการ
นําเข้าแรงงานอยู่ที่ ๑๗,๐๐๐ – ๒๕,๐๐๐ บาท/คน ใช้เวลาประมาณ ๒ – ๖ เดือน ไม่จูงใจนายจ้าง ซึ่งมี
ธรรมชาติที่ต้องการลดต้นทุนและภาระการจัดการ ผู้วิจัยพบว่าการนําเข้าแรงงานตาม MOU เป็น
ประโยชน์แก่ผู้ประกอบการบางกลุ่ม คือกิจการขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีการบริหารจัดการกิจการอย่าง
เป็นระบบ และการผลิตที่คงเส้นคงวา หรือขยายตัว ต้องการแรงงานที่ทํางานต่อเนื่อง ผู้ประกอบการกลุ่ม
๔๘