Page 27 - รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการวิจัยการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทย และความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน
P. 27

จากแผนภูมิสถิติแสดงให้เห็นว่า สถานการณ์ค้ามนุษย์ด้านแสวงหาประโยชน์จากการบังคับ
                   ค้าประเวณี  มีการพยายามจับกุมอย่างต่อเนื่องในระยะ ๒  ปีที่ผ่านมา ท าให้ทางคดีมีความสลับซับซ้อน

                   การจับกุมยากขึ้น ผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นหญิงไทยและหญิงลาว อายุต่ ากว่า ๑๘  ปี บางกรณีมีการใช้
                   เอกสารหนังสือเดินทางและเอกสารประจ าตัวของหญิงชาวลาวที่มีอายุเกินกว่า ๑๘ ปี เพื่อหลีกเลี่ยง การ
                   ตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และการถูกตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่โดยเจ้าของสถานบริการเปิดกิจการ
                   อื่น เช่นร้านคาราโอเกะเล็กๆ ร้านนวดแผนโบราณเพื่อบังหน้าและให้พนักงานร้านทั้งที่เป็นหญิงไทยและ

                   หญิงลาวไปค้าประเวณีโดยให้ออกไปใช้บริการที่โรงแรมและจ่ายเงินค่าซื้อบริการโดยตรง เพื่อให้เจ้าของ
                   สถานบริการมีข้อต่อสู้ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณี  จากการด าเนินการเชิงรุกมีการขยายผล
                   สืบสวนสอบสวน ประกอบกับส านักงานต ารวจแห่งชาติ มีมาตรการทางการปกครอง ท าให้ปี ๒๕๕๗ สถิติ
                   คดีค้ามนุษย์ลดลงเหลือ ๑๘๖ คดี

                          สถานการณ์ค้ามนุษย์ด้านแสวงหาประโยชน์จากการน าคนมาขอทานพบว่า ผู้เสียหายส่วนใหญ่
                   เป็นเด็กชายชาวกัมพูชาที่อายุต่ ากว่า ๑๕ ปี  หลบหนีเข้ามาในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายพร้อมกับบิดา
                   มารดาหรือญาติพี่น้อง และถูกบิดา มารดาหรือผู้ใกล้ชิดน าไปแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการขอทาน
                   บริเวณสถานที่ท่องเที่ยว

                          สถานการณ์ค้ามนุษย์ด้านแสวงหาประโยชน์จากการบังคับใช้แรงงาน ส่วนใหญ่พบว่าเจ้าของเรือ
                   ท าสัญญาให้ไต้ก๋งเช่าเรือเพื่อให้พ้นจากความรับผิดชอบ  ในการออกเรือไม่มีการแจ้งเรือออก - เข้าท่า
                   รวมทั้งเมื่อเดินทางออกไปท าการประมงนอกน่านน้ า ไม่มีการแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับเรือ ผู้โดยสาร และ

                   ลูกเรือ ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ  เนื่องจากแรงงานส่วนใหญ่เป็นแรงงานที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ในปี
                   ๒๕๕๗ มีจ านวนคดีค้ามนุษย์การบังคับใช้แรงงาน ๒๕ คดี บังคับใช้แรงงานในเรือประมง จ านวน ๗ คดี
                   ผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมา อายุมากกว่า ๑๘ ปีขึ้นไป
                          เป็นที่น่าสังเกตว่า สถิติคดีค้ามนุษย์ที่เริ่มสอบสวนในปี ๒๕๕๗ มีจ านวนลดลง ซึ่งกองบังคับการ
                   ปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) อธิบายว่า เนื่องจากสาเหตุสามประการคือ ประการแรก ส านักงาน

                   ต ารวจแห่งชาติได้มีนโยบายและมาตรการเชิงรุกให้เจ้าหน้าที่ต ารวจออกตรวจสถานที่เสี่ยง ระดมกวาดล้าง
                   และจับกุมผู้กระท าผิดฐานค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่อง โดยในปี ๒๕๕๗  มุ่งเน้นตรวจสถานที่เสี่ยงให้มีจ านวน
                   มากกว่าในปี ๒๕๕๖  ประการที่สอง ส านักงานต ารวจแห่งชาติมีมาตรการที่เคร่งครัดในการออกค าสั่งให้

                   เจ้าหน้าที่ต ารวจที่ปล่อยปละละเลยให้มีการกระท าผิดฐานค้ามนุษย์เกิดขึ้นออกจากพื้นที่ที่รับผิดชอบ
                   รวมทั้งด าเนินการทางวินัยหากพบว่ามีความบกพร่องจากการปฏิบัติหน้าที่ และประการที่สาม ความ
                   ร่วมมือกันในการปฏิบัติงานระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และ เอกชนในรูปแบบของทีมสหวิชาชีพ รวมถึงการ
                   ให้ความรู้ในเรื่องของการค้ามนุษย์ กับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการ และ แรงงาน

                   กลุ่มเสี่ยง
                          อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยก็ยังคงเป็นทั้งประเทศต้นทาง ทางผ่าน และปลายทาง อีกทั้งรูปแบบ
                   การค้ามนุษย์ก็มีความสลับซับซ้อนมากขึ้น จึงมีความจ าเป็นที่ต้องท าการศึกษาวิจัยเพื่อหาแนวทางปูองกัน
                   และปราบปรามการค้ามนุษย์ในประเทศไทย รวมทั้งการแสวงหาแนวทางความร่วมมือกับประเทศเพื่อน

                   บ้านเพื่อขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น





                                                              ๗
   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32