Page 108 - รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการวิจัยการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทย และความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน
P. 108
รูปแบบของแรงงานประมง คณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาเกี่ยวกับการเลือกเก็บค่าใช้จ่ายจากคนงานในการ
เดินทางไปทํางานต่างประเทศ คณะอนุกรรมการพิจารณาผลการจัดระบบการจัดหางานให้คนงานไป
ทํางานต่างประเทศของภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ เป็นต้นและหากเป็นภารกิจของ
หน่วยงานใด จะให้หน่วยงานนั้นรับผิดชอบไปดําเนินการ และนํากลับไปรายงานให้คณะกรรมการฯ ทราบ
กล่าวคือ ถ้าเป็นเรื่องการค้ามนุษย์ในรูปแบบแรงงาน ก็มอบหมายให้กระทรวงแรงงานเป็นเจ้าของเรื่องไป
ดําเนินการแต่งตั้งอนุกรรมการโดยเชิญผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมเป็นคณะอนุกรรมการ หลังจาก
นั้นจะจัดให้มีการประชุมพิจารณาแนวทางและมาตรการในการปูองกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ใน
รูปแบบต่างๆที่หน่วยงานตนเองมีภารกิจหน้าที่ความรับผิดชอบ และจะนําผลการประชุมไปรายงานต่อ
คณะกรรมการที่แต่งตั้ง หากผลการประชุมมีป๎ญหาเกี่ยวข้องกับส่วนราชการใด ก็จะใช้มติที่ประชุมของ
คณะกรรมการมอบหมายให้ส่วนราชการนั้นรับไปดําเนินการต่อไป
สําหรับป๎ญหา อุปสรรค ที่สําคัญในการดําเนินงานปูองกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของ
หน่วยงานรัฐ ในเบื้องต้น สามารถสรุปได้ ๕ ประการ คือ
๑) แต่ละหน่วยงานต่างมีภารกิจหลักของตนเอง เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวง
การท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงยุติธรรม กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข
เป็นต้น การเพิ่มภารกิจเรื่องการปูองกันและปราบปรามการค้ามนุษย์เข้าไปจึงมีผลกระทบต่อการ
ดําเนินงานตามภารกิจหลักเพราะต้องมีการจัดสรรกําลังคนไปรับผิดชอบเพิ่มเติมในเรื่องการปูองกันและ
ปราบปรามการค้ามนุษย์
๒) งบประมาณในการดําเนินงานปูองกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของแต่ละหน่วยงานมี
ไม่เพียงพอ อันเป็นผลสืบเนื่องจากการดําเนินงานที่เพิ่มขึ้นจากภารกิจหลัก ทําให้ต้องเจียดงบประมาณ
จากส่วนอื่นมาใช้ในการดําเนินงาน
๓) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ซึ่งเป็นกระทรวงหลักในการดูแล
พ.ร.บ.ปูองกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ไม่มีกําลังในการปราบปรามการค้ามนุษย์
โดยตรง ต้องอาศัยความร่วมมือจากสํานักงานตํารวจแห่งชาติ และกระทรวงมหาดไทย สํานักงานปูองกัน
และปราบปรามการฟอกเงิน ในหลายกรณี เกิดความไม่คล่องตัวในการดําเนินงาน
๔) กระบวนการคัดแยกเหยื่อซึ่งตาม พ.ร.บ.ปูองกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.
๒๕๕๑ กําหนดให้ดําเนินการโดยทีมสหวิชาชีพยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันระหว่างตํารวจกับตัวแทน
ของภาคประชาสังคมอันเกิดจากการตีความกฎหมาย เป็นผลให้เหยื่อการค้ามนุษย์หลายรายกลายเป็นผู้
เข้าเมืองผิดกฎหมาย
๕) การดําเนินงานที่ผ่านมาขาดการบูรณาการในการปฏิบัติงานอย่างแท้จริง เป็นเพียงการ
ประสานงานเป็นครั้งคราว แต่ละหน่วยงานยังคงมุ่งทําผลงานตามอํานาจหน้าที่ที่กฎหมายของหน่วยงาน
บัญญัติไว้
๔.๓.๒ บทบาทของภาคประชาสังคมในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
ภาคประชาสังคมหรือ Civil Society Organizations คือการที่ภาคประชาชนมารวมตัวกันเป็น
องค์กรเพื่อแก้ไขป๎ญหาวิกฤตการณ์ในสังคมที่สลับซับซ้อน ยากที่รัฐจะแก้ไขซึ่งอาจจะเกิดจากความ
สลับซับซ้อนของป๎ญหา หรือเพราะความไร้ประสิทธิภาพของภาครัฐ
๘๘