Page 74 - รายงานผลการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ
P. 74
๔๗
(3) ในเขตรักษำพันธุ์สัตว์ป่ำ ห้ำมมิให้ผู้ใดยึดถือหรือครอบครองที่ดินหรือปลูกหรือ
ก่อสร้ำงสิ่งหนึ่งสิ่งใด หรือตัด โค่น แผ้วถำง เผำหรือท ำลำยต้นไม้ หรือพฤกษชำติอื่น หรือขุดหำแร่ ดิน หิน
หรือเลี้ยงสัตว์ หรือปล่อยสัตว์หรือสัตว์ป่ำ หรือเปลี่ยนแปลงทำงน้ ำ หรือท ำให้น้ ำในล ำน้ ำ ล ำห้วย หนอง บึง
ท่วมท้น เหือดแห้ง เป็นพิษหรือเป็นอันตรำยต่อสัตว์ป่ำ
ในกรณีที่มีควำมจ ำเป็นต้องปฏิบัติกำรเพื่อประโยชน์ในกำรคุ้มครองดูแล รักษำหรือบ ำรุง
เขตรักษำพันธุ์สัตว์ป่ำ เพื่อกำรเพำะพันธุ์ กำรศึกษำหรือวิจัยทำงวิชำกำร เพื่ออ ำนวยควำมสะดวกในกำร
ให้กำรศึกษำหรือกำรพักอำศัยหรืออ ำนวยควำมปลอดภัยหรือให้ควำมรู้แก่ประชำชน ให้อธิบดีมีอ ำนำจ
สั่งเป็นหนังสือให้พนักงำนเจ้ำหน้ำที่หรือเจ้ำหน้ำที่ของกรมป่ำไม้หรือกรมประมง แล้วแต่กรณี กระท ำกำร
อย่ำงหนึ่งอย่ำงใดในเขตรักษำพันธุ์สัตว์ป่ำได้ ทั้งนี้ ตำมระเบียบที่อธิบดีก ำหนด โดยควำมเห็นชอบของ
คณะกรรมกำร
(4) บริเวณสถำนที่ที่ใช้ในรำชกำรหรือใช้เพื่อสำธำรณประโยชน์หรือประชำชนใช้ประโยชน์
ร่วมกันแห่งใด รัฐมนตรีโดยควำมเห็นชอบของคณะกรรมกำรจะก ำหนดให้เป็นเขตห้ำมล่ำสัตว์ป่ำชนิดหรือ
ประเภทใดก็ได้ โดยประกำศในรำชกิจจำนุเบกษำ เมื่อได้ประกำศของรัฐมนตรีก ำหนดเขตห้ำมล่ำสัตว์ป่ำ
ชนิดหรือประเภทใดแล้วห้ำมมิให้ผู้ใดยึดถือครอบครองที่ดิน หรือตัด โค่น แผ้วถำง เผำ ท ำลำยต้นไม้หรือ
พฤกษชำติอื่น หรือขุดหำแร่ ดิน หิน หรือเลี้ยงสัตว์ หรือเปลี่ยนแปลงทำงน้ ำ หรือท ำให้น้ ำในล ำน้ ำ ล ำห้วย
หนอง บึง ท่วมท้น เหือดแห้ง เป็นพิษหรือเป็นอันตรำยต่อสัตว์ป่ำ เว้นแต่ได้รับอนุญำตเป็นหนังสือจำก
อธิบดี หรือเมื่ออธิบดีได้ประกำศอนุญำตไว้เป็นครำวๆ ในเขตห้ำมล่ำแห่งหนึ่งแห่งใดโดยเฉพำะ ในกรณี
ที่พนักงำนเจ้ำหน้ำที่หรือเจ้ำพนักงำนอื่นใดมีควำมจ ำเป็นต้องปฏิบัติกำรตำมกฎหมำยหรือปฏิบัติกำร
เพื่อประโยชน์ในกำรศึกษำหรือวิจัยทำงวิชำกำรในเขตห้ำมล่ำสัตว์ป่ำ พนักงำนเจ้ำหน้ำที่หรือเจ้ำพนักงำนนั้น
ต้องปฏิบัติตำมระเบียบที่อธิบดีก ำหนด โดยควำมเห็นชอบของคณะกรรมกำร
ปัญหาอุปสรรค ข้อจ ากัดของกฎหมาย และการแก้ไข
กำรสงวนพื้นที่ไว้เพื่อให้เป็นเขตรักษำพันธุ์สัตว์ป่ำหรือเขตห้ำมล่ำสัตว์ป่ำ สวนทำงกับ
ควำมต้องกำรที่ดินท ำกินของประชำชน จึงพบว่ำ เขตรักษำพันธุ์สัตว์ป่ำหรือเขตห้ำมล่ำสัตว์ป่ำถูกบุกรุก
อยู่ทั่วไป จึงเป็นปัญหำในกำรบริหำรจัดกำรที่จะต้องให้ประชำชนเกิดจิตส ำนึกในกำรหวงแหนทรัพยำกร
สัตว์ป่ำอันเป็นสมบัติของชำติที่มีค่ำและเสี่ยงต่อกำรสูญพันธุ์ และเป็นหูตำรวมทั้งช่วยเหลือทำงรำชกำร
แทนที่จะอยู่คนละข้ำง ดังนั้น กำรบังคับใช้กฎหมำยโดยตรงไม่มีทำงที่จะป้องกันสัตว์ป่ำมิให้ถูกรบกวน
จนสูญพันธุ์ได้ จ ำเป็นต้องได้รับควำมร่วมมือจำกประชำชน
(กรมอุทยำนแห่งชำติ สัตว์ป่ำ และพันธุ์พืช, 2557/ศูนย์ศึกษำนโยบำยที่ดิน คณะนิติศำสตร์ จุฬำลงกรณ์
มหำวิทยำลัย, 25๕๗)