Page 106 - รายงานผลการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ
P. 106

๗๙



                   มิถุนำยน พ.ศ. ๒๕๒๕ เห็นชอบในหลักกำรจ ำแนกตำมที่คณะกรรมกำรพัฒนำชนบทเสนอนโยบำยกำรใช้

                   ที่ดินและกรรมสิทธิ์ที่ดิน ดังนี้

                                   ๔.๑) พื้นที่ป่ำไม้ถำวรที่ยังไม่ได้ประกำศเป็นป่ำสงวนแห่งชำติ  ประมำณ  ๓๐  ล้ำนไร่

                   ให้กรมป่ำไม้ด ำเนินกำรสอบสวนเพื่อประกำศเป็นป่ำสงวนต่อไป ให้แล้วเสร็จภำยใน ๓ ปี

                                   ๔.๒) พื้นที่ป่ำไม้ที่มีผู้บุกรุกท ำกินเป็นเวลำนำนและไม่สำมำรถคืนเป็นสภำพป่ำได้อีก

                   ให้กรมป่ำไม้สอบสวนและออกเอกสำรสิทธิท ำกิน (สทก.) โดยเร็ว

                                   ๔.๓) พื้นที่เหมำะสมกับกำรเกษตรแต่ยังมีสภำพเป็นป่ำไม้อยู่  ให้รักษำไว้เป็นป่ำไม้

                   ต่อไป ไม่ควรจ ำแนกออกเป็นที่ท ำกิน

                                   ๔.๔) ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกรมที่ดิน กรมแผนที่ทหำร และหน่วยงำน
                   ที่เกี่ยวข้องท ำกำรส ำรวจ และจ ำแนกประเภทที่ดินอย่ำงละเอียดให้แล้วเสร็จภำยในแผนพัฒนำเศรษฐกิจ

                   และสังคมแห่งชำติ ฉบับที่ ๖ (พ.ศ. ๒๕๓๐ - พ.ศ. ๒๕๓๔) ทั้งนี้ ภำยใต้กำรก ำกับดูแลของคณะกรรมกำร

                   จ ำแนกประเภทที่ดินวิธีกำรในกำรส ำรวจจัดท ำแผนที่แสดงแนวเขตกำรจ ำแนกประเภทที่ดินเป็นไป
                   ตำมหลักเกณฑ์และวิธีกำรที่คณะกรรมกำรจ ำแนกประเภทที่ดินก ำหนด


                          (2) การประกาศก าหนดให้เป็นป่าคุ้มครองหรือป่าสงวน

                              ที่ดินที่ประกำศก ำหนดให้เป็นป่ำคุ้มครองหรือป่ำสงวนตำมพระรำชบัญญัติคุ้มครองและ

                   สงวนป่ำ พ.ศ. 2481 และพระรำชบัญญัติป่ำสงวนแห่งชำติ พ.ศ. 2507 มีวิวัฒนำกำรและวิธีกำร ดังนี้

                              กำรด ำเนินกำรในกำรสงวนป่ำเป็นงำนที่เกี่ยวกับขั้นตอนในกำรด ำเนินกำร เพื่อประกำศ
                   ก ำหนดให้เป็นป่ำสงวนแห่งชำติ  ซึ่งเป็นงำนโครงกำรที่ส ำคัญงำนหนึ่งที่ได้มีกำรก ำหนดไว้ในแผนพัฒนำ

                   เศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ  กรมป่ำไม้ในขณะนั้นได้จัดอันดับให้เป็นงำนส ำคัญอันดับแรก  ทั้งนี้

                   เพื่อด ำเนินกำรเร่งรัดสงวนป่ำให้ได้เนื้อที่ประมำณ 156 ล้ำนไร่ หรือคิดเป็นประมำณร้อยละ 50 ของเนื้อที่
                   ประเทศ ตำมที่ก ำหนดไว้ในแผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ ฉบับที่ 1 กำรก ำหนดเขตที่ดินของรัฐ
                   โดยกำรสงวนป่ำตำมพระรำชบัญญัติคุ้มครองและสงวนป่ำ  พ.ศ.  2481 นั้น เดิมกรมป่ำไม้ได้เริ่ม

                   ด ำเนินกำรสงวนป่ำตั้งแต่  พ.ศ.  2459  เป็นต้นมำ  โดยเสนอร่ำงพระรำชบัญญัติสงวนป่ำขึ้น  และมีกำร

                   พิจำรณำตำมล ำดับในปี  พ.ศ.  2460  ได้สั่งให้เจ้ำพนักงำนป่ำไม้ภำคเตรียมกำรสงวนป่ำ โดยคัดเลือกป่ำ
                   ที่สมควรสงวนไว้ แต่พระรำชบัญญัติสงวนป่ำต้องหยุดชะงักไม่สำมำรถด ำเนินกำรสงวน ตำมวิธีกำรที่ได้
                   ก ำหนดไว้ในพระรำชบัญญัติดังกล่ำวได้  กำรสงวนป่ำในขณะนั้น จึงต้องอำศัยวิธีกำรและอ ำนำจของ

                   ฝ่ำยปกครองในกำรก ำหนดพื้นที่ป่ำไม้โดยอำศัยควำมตำมพระรำชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่  พ.ศ.

                   2457 และวิธีกำรของกฎหมำยฉบับอื่นๆ ตำมล ำดับ ดังนี้

                              (2.1) การสงวนป่าโดยใช้พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457

                              กรมป่ำไม้สงวนป่ำโดยให้เจ้ำพนักงำนป่ำไม้ภำคคัดเลือกพื้นที่ที่เห็นสมควรสงวน  แล้วเสนอ
                   ให้สมุหเทศำภิบำลหรือผู้ว่ำรำชกำรจังหวัด ด ำเนินกำรก ำหนดพื้นที่ป่ำไม้โดยประกำศตำมพระรำชบัญญัติ
   101   102   103   104   105   106   107   108   109   110   111