Page 102 - รายงานผลการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ
P. 102
๗๕
กำรสงวนหวงห้ำมโดยคณะกรรมกำรจัดที่ดินแห่งชำตินั้น ขำดควำมแน่นอนเนื่องจำกมิได้มีกำรก ำหนดวิธีกำร
สงวนหวงห้ำมไว้ ทั้งไม่มีกำรจัดท ำแผนที่แสดงแนวเขตที่ดิน และไม่ต้องด ำเนินกำรประกำศในรำชกิจจำ
นุเบกษำอีกด้วย
(3.2) การสงวนหวงห้ามภายหลังการแก้ไขประมวลกฎหมายที่ดินตามประกาศ
ของคณะปฏิวัติฉบับที่ 334 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2515
เมื่อมีกำรแก้ไขประมวลกฎหมำยที่ดินตำมประกำศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๓๓๔ ในเรื่อง
หลักเกณฑ์กำรสงวนหวงห้ำมที่ดิน ได้ยกเลิกอ ำนำจของคณะกรรมกำรจัดที่ดินแห่งชำติในกำรสงวน
หวงห้ำมที่ดินไว้เพื่อประโยชน์ของทำงรำชกำร และยกเลิกกำรขึ้นทะเบียนที่ดินของทบวงกำรเมือง
ตำมมำตรำ ๘ เดิม โดยก ำหนดหลักเกณฑ์ในกำรขึ้นทะเบียนที่ดินของรัฐ ซึ่งมิได้มีบุคคลใดมีสิทธิครอบครอง
และที่ดินส ำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ที่ได้ถอนสภำพแล้วมำขึ้นทะเบียนเพื่อให้ทบวงกำรเมืองใช้ประโยชน์
ในรำชกำรตำมที่บัญญัติไว้ในมำตรำ 8 ทวิ โดยก ำหนดให้เป็นอ ำนำจของรัฐมนตรี น ำที่ดินมำ
ขึ้นทะเบียนเพื่อให้ทบวงกำรเมืองใช้ประโยชน์ในรำชกำร ซึ่งหลักเกณฑ์ และวิธีกำรในกำรขึ้นทะเบียน
ก ำหนดให้มีกำรจัดท ำแผนที่และให้มีกำรประกำศให้รำษฎรทรำบ ทั้งกำรขึ้นทะเบียนต้องมีกำรประกำศ
ในรำชกิจจำนุเบกษำและมีแผนที่แนบท้ำยประกำศ กำรขึ้นทะเบียนเพื่อให้ทบวงกำรเมืองใช้ประโยชน์
ในรำชกำรตำมมำตรำ ๘ ทวิ นั้น หำกเป็นกำรขึ้นทะเบียนตำมควำมต้องกำรของกระทรวง ทบวง
กรมต่ำงๆ แล้ว ที่ดินแปลงดังกล่ำวจะเปลี่ยนสภำพจำกที่สำธำรณสมบัติของแผ่นดินประเภทที่ดินรกร้ำง
ว่ำงเปล่ำตำมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ มำตรำ ๑๓๐๔ (๑) เป็นสำธำรณสมบัติของแผ่นดิน
ประเภทที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพำะ ตำมประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์มำตรำ ๑๓๐๔
(๓) และเป็นที่รำชพัสดุ
สถำนะของที่ดินที่ได้หวงห้ำมไว้ใช้รำชกำร หำกมีกำรสงวนหวงห้ำมตำมหลักเกณฑ์และ
วิธีกำรที่ก ำหนดไว้ในขณะที่มีกำรหวงห้ำมแล้ว กำรสงวนหวงห้ำมดังกล่ำวก็มีผลบังคับตำมกฎหมำย และ
ยังมีผลบังคับอยู่ต่อไป เนื่องจำกมำตรำ ๑๐ แห่งพระรำชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมำยที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
บัญญัติรองรับไว้ว่ำ “ที่ดินซึ่งได้หวงห้ำมไว้เพื่อประโยชน์ตำมพระรำชบัญญัติว่ำด้วยกำรหวงห้ำมที่ดินรก
ร้ำงว่ำงเปล่ำอันเป็นสำธำรณสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ. ๒๔๗๘ หรือตำมกฎหมำยอื่นอยู่ถึงวันที่ประมวล
กฎหมำยที่ดินใช้บังคับให้คงเป็นที่หวงห้ำมต่อไป”.แต่หำกกำรสงวนหวงห้ำมมิได้เป็นไปตำมกฎหมำยที่ใช้
บังคับในขณะนั้นแล้ว กำรสงวนหวงห้ำมดังกล่ำวก็ไม่มีผลบังคับตำมกฎหมำย รำษฎรสำมำรถเข้ำจับจอง
ใช้ประโยชน์ได้ อย่ำงไรก็ตำม แม้กำรสงวนหวงห้ำมจะไม่ชอบด้วยกฎหมำย หำกรำชกำรได้เข้ำใช้
ประโยชน์ในรำชกำรแล้ว ที่ดินแปลงดังกล่ำวก็จะเปลี่ยนสภำพเป็นสำธำรณสมบัติของแผ่นดินประเภท
ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพำะ โดยไม่จ ำเป็นต้องหวงห้ำมอีก ดังควำมเห็นของคณะกรรมกำร
กฤษฎีกำตำมบันทึกเรื่องหำรือปัญหำกฎหมำยเกี่ยวกับประเภทที่ดินตำมมำตรำ ๑๓๐๔ แห่งประมวล
กฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ (กรณีที่ดินบริเวณท่ำเรือท่ำทอง อ ำเภอเมือง จังหวัดสุรำษฎร์ธำนี)
ส ำหรับสถำนะทำงกฎหมำยของที่หวงห้ำมไว้ใช้รำชกำรด้วยวัตถุประสงค์ของกำรสงวน
หวงห้ำมที่ดินรกร้ำงว่ำงเปล่ำเพื่อน ำมำใช้ประโยชน์ในรำชกำรนั้น เนื่องจำกรัฐมีควำมประสงค์จะหวงห้ำม