Page 34 - รายงานการปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของคนพิการ
P. 34
30
55. ข้อเสนอแนะ ในการเรียกผู้รับบริการตามบัตรคิว โรงพยาบาลควรใช้ทั้งการ
ประกาศเรียกและมีป้ายแสดงล าดับบัตรคิวเพื่อให้ทั้งคนพิการทางการเห็นและ
ทางการได้ยินทราบว่าถึงคิวของตนแล้ว และโรงพยาบาลของรัฐควรจัดให้มี
ช่องทางพิเศษส าหรับคนพิการโดยเฉพาะ รวมทั้งควรมีการเร่งรัดให้
สถานพยาบาลของรัฐจัดให้มีอุปกรณ์และสิ่งอ านวยความสะดวกส าหรับคนพิการ
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2552 (ดูรายละเอียดในข้อ 13-14) นอกจากนั้น
โรงพยาบาลทุกแห่งควรพิจารณาติดตั้งตู้บริการล่ามภาษามือ 24 ชั่วโมงของ
ศูนย์บริการถ่ายทอดการสื่อสารแห่งประเทศไทย (Thai Tele-communication
Relay Service – TTRS) หรือจัดให้มีคอมพิวเตอร์ Notebook ส าหรับเชื่อมต่อ
กับศูนย์ฯ เพื่อให้บุคลากรของศูนย์ฯ ให้บริการล่ามภาษามือผ่านทาง
จอคอมพิวเตอร์แบบ real time ได้ เป็นการช่วยแก้ปัญหาเรื่องการสื่อสารของคน
พิการทางการได้ยินที่ต้องเข้ารับบริการทางการแพทย์ในกรณีเร่งด่วน
56. ปัจจุบัน มีความเหลื่อมล้ าในการให้บริการด้านสาธารณสุขแก่คนพิการ
ระหว่างคนพิการที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งเป็นระบบส าหรับ
ประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เป็นข้าราชการ หรือลูกจ้างบริษัทเอกชน กับระบบ
ประกันสังคมซึ่งเป็นระบบส าหรับลูกจ้างบริษัทเอกชนที่ลูกจ้างและนายจ้างต้อง
จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุน คนพิการทั่วไปที่ไม่ได้ท างานจะใช้สิทธิในระบบ
หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าซึ่งใช้ได้อยู่ดีแล้ว แต่เมื่อคนพิการมีงานท า จะถูกตัด
สิทธิการรับบริการจากระบบดังกล่าว และต้องมาใช้สิทธิในระบบประกันสังคม ซึ่ง
ในระบบนี้คนพิการจะใช้สิทธิรักษาพยาบาลได้เฉพาะความพิการที่เกิดขึ้นจากการ
ท างานเท่านั้น แต่ไม่สามารถใช้สิทธิรักษาพยาบาลและฟื้นฟูความพิการที่เกิดขึ้น
ก่อนที่คนพิการจะได้ท างาน และเข้าสู่ระบบประกันสังคมได้ ท าให้คนพิการได้
สิทธิน้อยลงกว่าเดิม ทั้งที่คนพิการต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคมทุกเดือนใน