Page 39 - รายงานการปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของคนพิการ
P. 39
35
ไม่สามารถท างานได้ รัฐควรมีมาตรการส่งเสริมการท างานของผู้ดูแลคนพิการ
เพื่อให้มีรายได้ส าหรับน ามาใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลคนพิการ
68. ข้อเสนอแนะ มาตรการส่งเสริมการจ้างงานตามมาตรา 33 ของ พ.ร.บ.
ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2 5 5 0 ควรมีการแก้ไขให้
ครอบคลุมถึงกรณีคนพิการที่ท างานเองไม่ได้และต้องมีผู้ดูแล เช่น คนพิการทาง
จิต ออทิสติก และทางสติปัญญา โดยควรก าหนดมาตรการจ้างงานผู้ดูแลคนพิการ
เพื่อให้ผู้ดูแลคนพิการสามารถหารายได้มาดูแลคนพิการได้ นอกจากนี้ ในกรณี
การให้ความช่วยเหลืออื่นใดแก่คนพิการตามมาตรา 35 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควร
มีความยืดหยุ่นในเรื่องรูปแบบความช่วยเหลือ เช่น อาจให้รวมถึงการซื้อสินค้าที่
ผลิตโดยคนพิการได้นอกเหนือจากการจ้างเหมาท างาน
การมีส่วนร่วมทางวัฒนธรรมฯ (ข้อ 30 ของอนุสัญญาฯ)
69. สถานที่ท่องเที่ยวและโรงแรมที่พักส่วนใหญ่ยังไม่มีอุปกรณ์สิ่งอ านวยความ
สะดวกส าหรับคนพิการ และข้อมูลในสถานที่ท่องเที่ยวมักไม่อยู่ในรูปแบบที่คน
พิการบางประเภทเข้าถึงได้ จึงเป็นอุปสรรคต่อการมีส่วนร่วมทางวัฒนธรรมของ
คนพิการ นอกจากนี้ คนพิการทางการได้ยินมีปัญหาในการดูรายการบันเทิงทาง
โทรทัศน์เพราะล่ามภาษามือมักมีเฉพาะรายการข่าวเท่านั้น
70. ข้อเสนอแนะ รัฐควรมีมาตรการส่งเสริมให้ภาคเอกชนที่ให้บริการสาธารณะจัด
สิ่งอ านวยความสะดวกให้แก่คนพิการตามแนวคิด Universal Design เช่น การ
ก าหนดให้โรงแรมมีห้องพักที่มีการเตือนภัยด้วยสัญญาณไฟและสัญญาณเสียง
ส าหรับคนพิการทางการได้ยินและทางการเห็น การจัดท าข้อมูลในสถานที่ท่องเที่ยว
และข้อมูลประชาสัมพันธ์ในเรื่องต่างๆ ควรท าในรูปแบบที่คนพิการสามารถเข้าถึง
ได้โดยค านึงถึงลักษณะความพิการแต่ละประเภท นอกจากนี้ รัฐควรก าหนดให้