Page 313 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 313

สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
                National Human Rights Commission of Thailand

                ใหดําเนินการพิสูจนสิทธิตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวาดวยการแกไขปญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ พ.ศ. 2545

                (ตอมามีหนังสือสั่งการของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี โดยใหมีผลนับถัดแตวันที่สั่งการ

                วันที่สั่งการวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2546)

                         3.  การจัดใหเชา ใหดําเนินการไดโดยไมตองใหสวนราชการผูครอบครองใชประโยชนในที่ราชพัสดุ
                ใหความยินยอมหรือสงคืนกอน และสามารถดําเนินการใหเชาไดแมวาการใหเชานั้นจะไมเปนไปตามขอกําหนด

                ในการใชประโยชนในที่ดินตามกฎหมายผังเมือง ทั้งนี้ เมื่อจัดใหเชาแลวใหแจงกรมธนารักษเพื่อแจงใหหนวยงาน

                ที่เกี่ยวของทราบตอไป

                         4.  ในการพิสูจนสิทธิตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี หากมิใชที่ราชพัสดุใหกันพื้นที่นั้นออกเพื่อให
                ราษฎรนําไปออกเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายที่ดิน ถาเปนที่ราชพัสดุและราษฎรยอมรับใหดําเนินการ

                จัดใหเชาตามขอ 3 หากไมยอมรับใหดําเนินคดี และเมื่อผลคดีสิ้นสุดวาเปนที่ราชพัสดุใหบังคับคดีและผลักดันราษฎร

                รายนั้นออกไปจากที่ดิน

                         5.  ใหสํานักงานธนารักษพื้นที่จัดใหเชามีกําหนดไมเกิน 3 ป โดยใหดําเนินการตามนัยหนังสือเวียน
                กรมธนารักษที่ กค 0314/ว6 ลงวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2547 เมื่อดําเนินการจัดใหเชาแลวใหรวบรวมรายชื่อผูเชา

                แจงใหสวนราชการที่รับผิดชอบในการลงทะเบียนขอรับสิทธิที่อยูอาศัยหรือที่ทํากินตามโครงการของรัฐบาล

                เพื่อดําเนินการตอไป

                         4) โครงการ 1 ลานไร มิติที่ราชพัสดุ
                         ตามที่รัฐบาลมีนโยบายการขอคืนที่ราชพัสดุ 1 ลานไร เพื่อนํามาใหเกษตรกรเชาทําการเกษตร

                โดยการสนับสนุนการปลูกพืชอาหารและพืชทดแทนพลังงานหลอมรวมทุกกลไก 1 ลานไร มิติใหมที่ราชพัสดุ

                คณะรัฐมนตรีไดมีมติเมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2551 ใหกระทรวงการคลังเรงดําเนินการตรวจสอบที่ราชพัสดุ

                ที่สวนราชการครอบครองไวเกินความจําเปนหรือที่ไมใชประโยชน นํามาจัดใหเกษตรกรเชาในอัตราคาเชา
                ที่เหมาะสม เพื่อรองรับสถานการณวิกฤตอาหารและพลังงาน ซึ่งมีมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวของดังนี้

                         1.  มติคณะรัฐมนตรี 10 มิถุนายน พ.ศ. 2551 เรื่อง นโยบายการขอคืนที่ดินราชพัสดุเพื่อนํามาให

                เกษตรกรเชาทําการเกษตร ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอดังนี้ ใหกระทรวงตาง ๆ และ

                สวนราชการสํารวจและสงคืนที่ราชพัสดุที่ครอบครองไวเกินความจําเปนและหรือไมไดใชประโยชน และสามารถ
                ทําเกษตรกรรมได ใหไดโดยประมาณไมตํ่ากวา 1 ลานไร ภายใน  3 เดือน นับแตวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติใหสงคืน

                ที่ราชพัสดุ และเมื่อไดรับคืนที่ราชพัสดุจากสวนราชการ/หนวยงานตาง ๆ แลว ใหกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตร

                และสหกรณ กระทรวงพลังงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม รวมกันในการกําหนดแนวทางดําเนินการเพื่อใหมี

                การนําที่ดินดังกลาวไปใชเปนพื้นที่เกษตรกรรมไดอยางเหมาะสม และเปนรูปธรรม โดยใหกระทรวงการคลังพิจารณา
                กําหนดเงื่อนไขและอัตราคาเชาที่ดินใหเหมาะสมและเปนธรรมแกเกษตรกร และใหรับความเห็นของสวนราชการ





         292     รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข
                 นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”
   308   309   310   311   312   313   314   315   316   317   318