Page 222 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 222
สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
National Human Rights Commission of Thailand
จัดตั้งชุมชนสาธิตฯ ชาวบานเสียสิทธิในที่ดิน ถูกขมขู กลุมที่ 3 ยินยอมรับสิทธิตาม ส.ป.ก. และอพยพเขามาอยู
ในแปลงชุมชนสาธิตฯ โดยมีทั้งกลุมที่ชาวบานในพื้นที่เดิมใหความยินยอมและไมใหความยินยอม เขาทําประโยชน
ในพื้นที่
สภาตําบลยืนยันถึงความเปนที่สาธารณประโยชน โดยไมมีการตรวจสอบ อําเภอทราบความเดือดรอน
ไมดําเนินการใด เจาหนาที่ตํารวจทราบความ ไมดําเนินการคุมครองทางคดี กระทรวงมหาดไทย คณะอนุกรรมการ
แกไขปญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐระดับจังหวัดยืนยันความถูกตองของขอบเขตที่ดินสาธารณประโยชน โดยไมยอม
ใหดําเนินการตรวจสอบใหม มหาวิทยาลัยฯ จัดสรรที่ดินรวมกับสํานักงานปฏิรูปฯ ประกาศเขตปฏิรูปทับซอน
ที่ดินทํากินของชาวบานอีกกลุม มหาวิทยาลัยฯ ฟองขับไลชาวบานที่ไมยอมออกจากพื้นที่พิพาท”
“ที่สาธารณประโยชนทุงสระ ทุงลานโย จังหวัดพัทลุง : ที่ดินสาธารณประโยชนทุงสระ ชาวบาน
อยูอาศัยและใชประกอบอาชีพเกษตรกรรมและเลี้ยงสัตวรวมกัน อยูในความดูแลของสภาตําบลพนางตุง ตอมา
เปนองคการบริหารสวนตับลพนางตุงและเทศบาลตําบลพนางตุง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒฯ ขอใชพื้นที่
1,500 ไรครอบคลุมที่ดินสาธารณประโยชนทุงสระเพื่อกอสรางมหาวิทยาลัยทักษิณ จังหวัดเห็นชอบ แตกระทรวง
มหาดไทยยังไมอนุมัติเนื่องจากจังหวัดไมสามารถแกไขปญหากับชาวบานที่เขาใชประโยชนในพื้นที่ได
มหาวิทยาลัยเขาดําเนินการ กอสราง ปกปายประกาศหามไมใหชาวบานเขาที่ดิน ขุดลอกคลองขึ้นใหม
ทําใหชาวบาน สัญจรในที่ดินไมได มหาวิทยาลัยยายสถานที่กอสรางไปที่ทุงลานโยเมื่อ พ.ศ. 2541 โดยอําเภอ
สํารวจรวมกับมหาวิทยาลัยฯ ประมาณ 3,500 ไร ส.ป.ก. อําเภอ รังวัดและปกเขตพื้นที่กอสรางทับซอนที่ดิน
ส.ป.ก. ของชาวบาน ประมาณ 300 ไร จังหวัดอนุญาต มหาวิทยาลัยทักษิณ เขาใชพื้นที่สาธารณประโยชน
ทุงลานโย
พ.ศ. 2548 - 2549 มหาวิทยาลัยทักษิณ เขาใชพื้นที่ทุงสระอีกครั้งเพื่อกอสรางวิทยาลัยภูมิปญญาชุมชน
ชาวบานคัดคาน
จังหวัด อําเภอ ขับไลราษฎรใหรื้อถอนทรัพยสินพรอมสิ่งปลูกสราง ออกจากพื้นที่ทุงสระภายใน 90 วัน
มหาวิทยาลัยทักษิณ ตั้งคณะทํางานพิจารณาทบทวนพื้นที่ทุงสระฯ มติครั้งที่ 1 ใหกันพื้นที่เพื่อใหราษฎร
ใชประโยชนรวมกันโดยใหสํานักงานที่ดินดําเนินการ มติครั้งที่ 2 ใหตัดพื้นที่บางสวนที่ไมมีความเปนในการ
ใชประโยชน
พ.ศ. 2542 องคการบริหารสวนตําบลพนางตุงมีมติใหยกเลิกมติเกาและขอคืนที่ดินจากมหาวิทยาลัย
เพราะไมมีการดําเนินการใด และไมแจงแผนงานใหทราบ
คณะกรรมการพิจารณาดําเนินการจัดที่ดินใหราษฎรที่ไดรับผลกระทบจากการจัดตั้งมหาวิทยาลัย
มีมติครั้งที่ 2/2544 ใหมหาวิทยาลัยกันที่ดินจํานวน 300 ไร ซึ่งเปนที่ตั้งของหมูบานลานโยพัฒนาออกจากพื้นที่
ขอใชแลวออก ส.ป.ก. 4 - 01 ใหแกราษฎรที่เขาไปอยูเพื่อเปนหลักประกันความมั่นคง
จังหวัดมีคําสั่ง 97/2551 แตงตั้งคณะทํางานในการรังวัดออกหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวงในที่ดิน
สาธารณประโยชนทุงลานโยและคําสั่งแตงตั้งคณะทํางานเพื่อรวมชี้และรับรองแนวเขตการออกหนังสือสําคัญ
สําหรับที่หลวง
รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข 201
นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”