Page 218 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 218

สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
                                                                                               National Human Rights Commission of Thailand

                        “ที่สาธารณประโยชนโคกปากุง  จังหวัดขอนแกน : ที่ดินไดรับการจัดสรรที่ทํากินและที่อยู

               จากนิคมสรางตนเอง มีหลักฐานโฉนดที่ดิน หนังสือรับรองการทําประโยชน (น.ส.3 ก) หนังสือแสดงการทําประโยชน
               (น.ค.3) บางรายไมมีหลักฐาน ที่สาธารณประโยชนขึ้นทะเบียนเมื่อป 2492 เนื้อที่ 1,500 ไร ใชเปนที่เลี้ยงสัตว

                        พ.ศ. 2545 อําเภอรังวัดสอบเขตเพื่อออกหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวงคลาดเคลื่อนไมตรงตามทะเบียน
               ทับที่ทํากินชาวบาน และในการรังวัดปรากฏสําเนาแผนที่ภาพถายไมไดระบุขอบเขต ประกอบมีชาวบานอาศัย

               อยูเปนจํานวนมาก จึงไมสามารถรังวัดได กํานันบอกชาวบานในที่พิพาทวาเปนการสํารวจพื้นที่นํ้าทวม
               หรือเขตชลประทาน ทําใหชาวบานไมคัดคานขณะทําการรังวัด

                        พ.ศ. 2546 อําเภอมีคําสั่งแตงตั้งคณะทํางานกําหนดเขต นําชี้เขต และลงลายมือชื่อรับรองเขตที่ดินฯ
               โดยกํานันไดรับแตงตั้งเปนคณะทํางานและผูนําชี้แนวเขต

                        พ.ศ. 2547 อําเภอจัดประชุมผูคัดคานการกําหนดเขต ที่ประชุมมีมติเอกฉันทใหมีการออกรังวัดที่ดิน
               เพื่อใหสามารถดําเนินการออกหนังสือสําคัญสําหรับที่หลวงในสวนที่ไมมีปญหากอน

                        พ.ศ. 2548 อําเภอจัดประชุมคณะทํางานฯ เพื่อตรวจสอบความถูกตองของรูปแผนที่ ที่ประชุม
               มีมติเสียงขางมากใหการรับรองรูปแผนที่

                        ผูรองและพวกเห็นวาคณะทํางานไมมีผูทราบขอเท็จจริงประวัติพื้นที่และไมเปนกลางจึงคัดคาน”
                        “ที่สาธารณประโยชนชายทะเลบานพุนอย จังหวัดประจวบคีรีขันธ : ที่ดินชายทะเลหางทะเล

               40 เมตร มีหนังสือรับรองการทําประโยชน แบงขายเมื่อป 2505 ตอมาไดออกโฉนดแบงแยกแปลงนําออกขาย
               เปลี่ยนมือ

                        พ.ศ. 2516 - 2520 มีการตัดถนนเลียบชายหาด กํานัน ผูใหญบาน และชาวบานรวมกันปลูกตนสน
               ตลอดแนวเพื่อแสดงอาณาเขตของที่สาธารณะประโยชนที่ชาวบานในทองถิ่นใชประโยชนรวมกัน ที่ดินมีโฉนด

               แบงแยกบางแปลงชุมชนยืนยันวาเปนที่ดินในที่สงวนหวงหามเพื่อใหพลเมืองใชรวมกันบางแปลงอดีตกํานัน
               ปฏิเสธวาไมเคยลงลายมือชื่อในฐานะเจาพนักงานปกครองทองที่ในใบไตสวนขอออกโฉนดที่ดิน และลายเซ็น

               ที่ปรากฏก็ไมใชลายเซ็นตน
                        พ.ศ. 2546 เจาของที่ดินที่รุกลํ้า ยื่นคํารองขออนุญาตกอสรางอาคารบนที่ดินตอองคการบริหารสวนตําบล

               และไดเริ่มทําการกอสรางอาคาร
                        ชาวบานกวา 800 คน ลงลายมือชื่อคัดคาน เชื่อวาเปนที่สาธารณะ อดีตกํานันแจงความเรื่องลายมือชื่อ

               ปลอม
                        พ.ศ. 2547 ตัวแทนชาวบานยื่นหนังสือตอกิ่งอําเภอเรียกรองใหระงับการกอสรางอาคาร จนกวา

               การตรวจสอบที่สาธารณะจะสิ้นสุด และใหตรวจสอบการออกโฉนดที่ดินบริเวณชายหาดทุกฉบับวาออกโดยชอบ
               ดวยกฎหมายหรือไม

                        พ.ศ. 2548 ที่ดินจังหวัดตรวจสอบพบการออกหนังสือรับรองการทําประโยชนและโฉนดที่ดินชอบดวย
               กฎหมาย และนอกจากที่ดินที่เปนกรณีพิพาทแลวไมมีที่ดินแปลงใดเปนกรรมสิทธิ์ของเอกชนและอยูติดริมชายหาด

               จังหวัดมีคําสั่งแตงตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขอเท็จจริงกรณีออกเอกสารสิทธิทับที่สาธารณะ คณะกรรมการ




                                                                       รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข  197
                                                                นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”
   213   214   215   216   217   218   219   220   221   222   223