Page 124 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 124
สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
National Human Rights Commission of Thailand
2. การสํารวจพื้นที่ดังกลาวขางตนดําเนินการดังนี้
2.1 ในกรณีพื้นที่ที่ขออนุญาตมีเนื้อที่มากกวา 500 ไร ควรมีการตรวจสอบโดยภาพถาย
ทางอากาศ หรือภาพถายดาวเทียม มาตราสวนที่เหมาะสมซึ่งสามารถตรวจสอบไดที่ถายใหมที่สุด เพื่อประเมิน
ดูสภาพปาโดยทั่วไป หากมีพื้นที่ปาที่สมบูรณใหกันออก โดยมีเหตุผลที่ขอแกไข ดังนี้
1) พื้นที่ที่ขออนุญาตที่มีขนาดเนื้อที่เพียง 5 ไร 10 ไร หรือ 100 ไร ซึ่งปรากฏในแผนที่
ระวางมาตราสวน 1 : 50,000 เพียงจุดเดียวยอมไมเกิดผลในทางปฏิบัติ เมื่อนํามาตรวจสอบกับภาพถายทางอากาศ
ทําใหเสียเวลาและงบประมาณไปโดยเปลาประโยชนและพื้นที่ที่มีเนื้อที่นอยกวาหรือเทากับ 500 ไร เจาหนาที่
ผูตรวจสอบสภาพปาสามารถทําการสํารวจนับไม โดยวางแปลงตัวอยางไดโดยสะดวก ไมเสียเวลาและงบประมาณ
คาใชจายมากนัก และถาทําการสํารวจนับไม 100% ก็จะไดขอมูลที่เชื่อถือไดมากที่สุด และเปนขอมูลที่ละเอียด
ที่สุดแลว จึงไมจําเปนตองทําการประเมินสภาพปา โดยตรวจสอบกับภาพถายทางอากาศอีก ไมวากรณีใด ๆ
2) การประเมินดูสภาพปาโดยทั่วไป สามารถกระทําไดโดยใชภาพถายทางอากาศ
และทางภาพถายดาวเทียม เนื่องจากมีหลายหนวยงานที่ถายภาพทางอากาศ รวมทั้งภาพถายดาวเทียม
ซึ่งสามารถนํามาใชประโยชนได นอกจากนี้ สมควรใหใชไดหลายมาตราสวนตามความเหมาะสม ทั้งนี้ขึ้นอยูกับ
ขนาดของพื้นที่และสภาพภูมิประเทศที่จะทําการตรวจสอบ
2.2 ใหสํารวจโดยวิธีทําแปลงตัวอยางแบบ Line Plot ใหกระจายทั่วพื้นที่ไมนอยกวา
รอยละ 5 ของพื้นที่ เพื่อหาปริมาณของไมขนาดตาง ๆ ในการประเมินไมควรใชคาเฉลี่ยตอพื้นที่ปาผืนใหญ
เพื่อใหเปนไปตามหลักเกณฑควรใชคาเฉลี่ยตอพื้นที่ปาในแตละแปลงที่สํารวจ โดยมีเหตุผลที่ขอแกไข ดังนี้
1. การกันพื้นที่ขนาด 1 ไร ในพื้นที่ที่ขออนุญาตเปนพัน หรือเปนหมื่นไร ยอมเปน
ปญหาในทางปฏิบัติมาก เนื่องจากทําใหเสียเวลาและงบประมาณคาใชจายในการดําเนินงาน
2. จากการประเมินสภาพปาโดยทั่ว ไปจากภาพถายทางอากาศ หรือดาวเทียมกอน
ที่จะออกไปทําการสํารวจนับไมในพื้นที่ หากพบวาพื้นที่ที่ขออนุญาตบางสวนมีสภาพปาที่สมบูรณ ก็สามารถ
กันออกไดอยูแลว
ดวยเหตุผลดังกลาวขางตน คณะกรรมการนโยบายปาไมแหงชาติจึงเห็นควรนําเสนอคณะรัฐมนตรี
พิจารณาอนุมัติ ดังนี้
1. ขอทบทวนแกไขมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2529 และวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2530
เรื่อง หลักเกณฑและเงื่อนไขในการกําหนดสภาพปาเสื่อมโทรมตามประเด็นดังกลาวแลวขางตน
2. เนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับหลักเกณฑและเงื่อนไขการกําหนดปาเสื่อมโทรมทั้งที่กําหนด
ไวเดิมและที่ขอแกไขยังคงหามมิใหกําหนดพื้นที่ตนนํ้าลําธารชั้นที่ 2 เปนปาเสื่อมโทรม ซึ่งเปนผลใหกระทรวงเกษตร
และสหกรณไมสามารถที่จะพิจารณาอนุญาตใหภาคเอกชนทําการปลูกสรางสวนปาหรือไมยืนตนในพื้นที่
ปาตนนํ้าลําธารชั้นที่ 2 ได ทําใหการฟนฟูสภาพปาตนนํ้าลําธารชั้นที่ 2 ไมสามารถจะดําเนินการไดทันกับเหตุการณ
รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข 103
นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”