Page 101 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง การเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผู้ติดเชื้อเอชไอวี
P. 101
74 รายงานการศึกษาวิจัย
การเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผูติดเชื้อเอชไอวี
- กรณีที่ผูติดเชื้อเปดเผยตนเองตอคนรอบขางและคนในชุมชนโดยไมสมัครใจ ทําใหตองประสบ
ความยากลําบากในการดํารงชีวิต ไมเฉพาะตัวผูติดเชื้อ แตรวมถึงครอบครัวและคนใกลชิด ไดรับผลกระทบจากการ
ถูกตีตราและตั้งขอรังเกียจจากคนในชุมชนดวย
- การเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพ เปนจุดเริ่มตนหนึ่งที่สงผลใหมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ดานอื่น ๆ ของผูติดเชื้อ ไมวาจะเปนการถูกบังคับใหเขารับบริการทางการแพทย รวมทั้งตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวี
การถูกกักตัว กักเพื่อตรวจโรค ถูกทอดทิ้งใหโดดเดี่ยว แบงแยกทั้งยังมีการตรวจเลือดการไดรับบริการปรึกษาที่ไม
รอบดาน บีบบังคับการแจงผลเลือด การถูกกดดันใหบอกสถานะของการติดเชื้อ ถูกเลือกปฏิบัติในการเขารับบริการ
ทางการแพทย เชน ถูกจัดใหทําฟนหรือตรวจมะเร็งปากมดลูกเปนลําดับทาย
- ผลกระทบตอเศรษฐกิจในภาพรวม เมื่อสํานักงานหลักประกันสุขภาพแหงชาติใหบริการ
โครงการหลักประกันสุขภาพถวนหนา โดยครอบคลุมยาตานไวรัสสําหรับผูติดเชื้อ เพื่อใหผูติดเชื้อมีสุขภาพแข็งแรง
และสามารถดําเนินชีวิตไดตามปกติ แตในทางปฏิบัติ กลับมีการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผูติดเชื้อ
ทําใหกําลังแรงงานสวนหนึ่งหายไปจากระบบอยางนาเสียดาย
5.1.3 สาเหตุของการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผูติดเชื้อเอชไอวี
จากผลการศึกษาที่ผานมาพบวา สาเหตุหลักของการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของ
ผูติดเชื้อมีดังนี้
- การขาดความรูที่ถูกตองของคนในสังคมเรื่องการติดเชื้อเอชไอวี ทําใหนายจางในกิจการ
ประเภทที่เกี่ยวของกับอาหารและการบริการ หวาดกลัว และตั้งขอรังเกียจ
- การขาดความรูในเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิและการเลือกปฏิบัติตามกฎหมายไทย ทั้งในสวน
ของนายจาง และตัวผูติดเชื้อเอง สาเหตุนี้ทําใหนายจางจํานวนมากยังคงมีนโยบายเลือกปฏิบัติ ในขณะที่ตัวผูติดเชื้อ
จํานวนมากก็ไมรูสิทธิของตนเอง และยอมรับการถูกละเมิดสิทธิ
- การขาดความรูความเขาใจในเรื่องความกาวหนาทางเทคโนโลยีในการดูแลรักษาที่สามารถ
ทําใหผูติดเชื้อเอชไอวีสามารถดํารงชีวิตไดตามปกติ ทําใหผูคนจํานวนมากยังเขาใจวาผูติดเชื้อเอชไอวีจะมีสุขภาพ
ไมแข็งแรง นายจางจํานวนหนึ่งจึงไมยอมจางผูติดเชื้อเขาทํางาน เพราะเกรงวาจะไมคุมและตองมีรายจายเพิ่ม
- อคติของคนในสังคมที่ยังคงมองวา ผูติดเชื้อเอชไอวีเปนผูที่มีพฤติกรรมไมพึงประสงค จึงไมควร
จะไปเกี่ยวของกับผูติดเชื้อ
การขาดความรู ความเขาใจและอคติเหลานี้ เปนผลมาจากการรณรงคปองกันการระบาดของ
โรคเอดสตั้งแตทศวรรษแรก ๆ ที่มีลักษณะขูใหคนกลัวซึ่งการปลูกฝงมายาคติ ทําใหเอดส และเชื้อเอชไอวี
เปนเรื่องนากลัว โดยนโยบายการบริหารจัดการเอดสของภาครัฐเชนนี้ เคยถูกวิจารณวา นโยบายของรัฐ
ในการจัดการปญหาโรคเอดส คือ การลดพฤติกรรมเสี่ยง เพื่อปองกันการแพรระบาดของเชื้อเอชไอวีไปยังผูอื่น
ตกอยูภายใตแนวคิดระบาดวิทยานั้น เปนการจํากัดมุมมองไมใหเห็นเอดสในมิติอื่นๆ และยิ่งเปนซํ้าเติมการตีตรา
และการเลือกปฏิบัติอยูตอไป
จากการศึกษาสถานการณและปญหาการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพตอผูอยูรวมกับ
เชื้อเอชไอวีของไทย พบวา ภายใตกรอบกฎหมายปจจุบัน แมประเทศไทยยังไมมีกฎหมายเฉพาะเพื่อขจัด
การเลือกปฏิบัติตอกลุมผูอยูรวมกับเชื้อเอชไอวี แตรัฐธรรมนูญของประเทศไทยไดมีบทบัญญัติในหลัก