Page 47 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 47
45
ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๑ ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗
ต้องขออนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เสียก่อน เพื่อควบคุมมิให้มีการใช้เครื่องขยายเสียงส่งเสียงดัง
รบกวนความสงบสุขของบุคคลอื่น และแม้ว่าตามพระราชบัญญัติฉบับนี้ จะมุ่งหมายถึงการโฆษณา
ประชาสัมพันธ์เรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่โดยที่การประท้วงนั้นก็อาจมีความจำาเป็นต้องใช้เครื่องขยายเสียง
เพื่อกระจายเสียงให้มีผู้คนทั่วไปได้ยินได้ฟังด้วย ดังนั้น หากต้องการให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่าง
แท้จริงแล้ว ผู้จัดการชุมนุมต้องขออนุญาตก่อนใช้เครื่องขยายเสียงด้วย
กฎหมายฉบับนี้ได้บัญญัติไว้ว่า การที่บุคคลใดๆ จะต้องใช้เครื่องขยายเสียงใน
ที่สาธารณะจะต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ของรัฐเสียก่อน เมื่อได้รับอนุญาตจึงจะทำาการใช้เครื่อง
ขยายเสียงได้โดยมีใบอนุญาตกำาหนดเวลา สถานที่ที่จะใช้เครื่องเสียง และถ้าหากเจ้าหน้าที่เห็นว่า
การใช้เครื่องขยายเสียงก่อให้เกิดความรำาคาญรบกวนแก่ประชาชนทั่วไป ก็อาจสั่งให้ลดเสียงลงได้
ดังนั้น ถ้าบุคคลใดฝ่าฝืนไม่ขออนุญาตจากเจ้าพนักงานตำารวจ และเจ้าพนักงานท้องถิ่น ได้แก่ ผู้ว่า
ราชการจังหวัดในพื้นที่นั้นๆ ก็อาจจะถูกดำาเนินการตามกฎหมายได้ ซึ่งในทางปฏิบัติการชุมนุม
ในแต่ละครั้งไม่ได้มีการขออนุญาตใช้เครื่องขยายเสียงก่อน และเคยมีการจับกุมผู้นำาการชุมนุมที่ใช้
เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตมาแล้วหลายครั้ง รวมถึง การยึดเครื่องเสียงก็เคยทำา แต่ในทาง
ปฏิบัติ เจ้าพนักงานตำารวจก็มิได้เคร่งครัดในการบังคับใช้กฎหมายแก่ผู้กระทำาการฝ่าฝืนมากนัก
(๑๑) พระราชกำาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ๒๕
มีสาระสำาคัญ คือ บัญญัติให้อำานาจแก่ฝ่ายบริหารที่จะดำาเนินการเมื่อมีสถานการณ์
ฉุกเฉินเกิดขึ้น โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหรือตำารวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนหรือเจ้าหน้าที่
ฝ่ายทหารร่วมกัน ช่วยเหลือ ป้องกัน แก้ไข ปราบปราม หรือระงับยับยั้งสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว
นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีเป็นผู้สั่งการ เว้นแต่ในกรณีที่ไม่อาจขอความ
เห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีได้ทันท่วงที นายกรัฐมนตรีอาจประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไปก่อนแล้ว
ดำาเนินการให้ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีภายใน ๓ วัน การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
อาจประกาศเพื่อบังคับใช้ทั่วราชอาณาจักรหรือในบางเขตบางท้องที่ บังคับตามระยะเวลาที่นายก
รัฐมนตรีเป็นผู้กำาหนด แต่ต้องไม่เกิน ๓ เดือน นับแต่วันประกาศ ในกรณีที่มีความจำาเป็นต้องขยาย
ระยะเวลา ให้นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีมีอำานาจประกาศขยายระยะเวลา
การใช้บังคับออกไปอีกเป็นคราวๆ คราวละไม่เกิน ๓ เดือน
ในกรณีที่มีความจำาเป็นให้นายกรัฐมนตรีมีอำานาจออกข้อกำาหนด เช่น ห้ามมิให้
บุคคลใดออกนอกเคหสถานภายในระยะเวลาที่กำาหนด ห้ามมิให้มีการมั่วสุมชุมนุมกัน ณ ที่ใด
ห้ามการเสนอข่าว ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคม ห้ามการใช้อาคารสถานที่ และนายกรัฐมนตรีอาจ
มอบอำานาจให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบเป็นผู้ใช้อำานาจ
๒๕ อ้างแล้ว ๗ หน้า ๘๕-๘๗