Page 52 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 52
50 ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๑ ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗
บทกำ�หนดโทษ
ถ้ามีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำาหนด หรือมีการยุยงส่งเสริมผู้เข้าร่วม
การชุมนุมซึ่งรับทราบเงื่อนไขในการชุมนุมแล้วไม่ให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว ถือว่าเป็นการกระทำา
ความผิด และเจ้าหน้าที่ตำารวจในเครื่องแบบสามารถจับผู้ต้องสงสัยว่ากำาลังกระทำาความผิดได้
โดยไม่ต้องมีหมาย โดยผู้กระทำาผิดดังกล่าว ได้แก่
๑) ผู้จัดการชุมนุมซึ่งรับทราบเงื่อนไขในการชุมนุมแล้ว แต่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข
ดังกล่าว ต้องระวางโทษจำาคุกไม่เกินสามเดือนหรือปรับระดับสี่ของอัตราค่าปรับมาตรฐาน (ไม่เกิน
๒,๕๐๐ ปอนด์) หรือทั้งจำาทั้งปรับ เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่า ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวได้
เนื่องจากเหตุที่ตนไม่ต้องรับผิดชอบ
๒) ผู้เข้าร่วมการชุมนุมซึ่งทราบเงื่อนไขการชุมนุมแล้ว แต่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข
ดังกล่าว ต้องระวางโทษปรับระดับสามของอัตราค่าปรับมาตรฐาน (ไม่เกิน ๑,๐๐๐ ปอนด์) เว้นแต่จะ
พิสูจน์ได้ว่า ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวได้เนื่องจากเหตุที่ตนไม่ต้องรับผิดชอบ
๓) ผู้ใดยุยงส่งเสริมผู้เข้าร่วมการชุมนุมซึ่งรับทราบเงื่อนไขในการชุมนุมแล้วมิได้
ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว ต้องระวางโทษจำาคุก
(๒) ประเทศสหพันธรัฐเยอรมนี : Gesetz uber Versammlungen und Aufzuge
๓๐
Versammlungsgesetz (VersG)
หลักกฎหมายทั่วไปเกี่ยวกับการชุมนุมสาธารณะและการเดินขบวนที่สำาคัญ
ประการหนึ่ง ได้แก่ หลักความพอสมควรแก่เหตุ (proportionality) โดยมีขอบเขตในการพิจารณา
มาตรการของรัฐที่ก้าวล่วงเข้าไปในสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของพลเมือง ดังนี้
(ก) มาตรการของรัฐที่ใช้ต้องมีวัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมายในทางมหาชน ซึ่งจะ
ต้องเป็นมาตรการที่กฎหมายกำาหนดเท่านั้น
(ข) มาตรการที่ใช้จะถือว่าเหมาะสม เมื่อการดำาเนินการตามมาตรการดังกล่าว
สามารถบรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้
(ค) มาตรการที่เหมาะสมต้องเป็นมาตรการที่จำาเป็น โดยต้องไม่ปรากฏว่ามี
มาตรการอื่นที่กระทบกระเทือนต่อสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของพลเมือง หรือประโยชน์ส่วนรวม
น้อยกว่ามาตรการที่เลือกใช้ดังกล่าว จึงจะถือว่าเป็นมาตรการที่จำาเป็น
(ง) มาตรการของรัฐที่จำาเป็นนี้ต้องได้สัดส่วน ซึ่งจะมีการเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย
ระหว่างการใช้มาตรการของรัฐและประโยชน์ที่อาจได้รับจากการใช้มาตรการดังกล่าว
๓๐ อ้างแล้ว ๖ หน้า ๘๑ - ๑๔๕