Page 287 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 287

285
                                                   ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                                                   ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๑  ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗




                     รวม ๘ ประเด็น ในจำานวนนี้มี ๒ ประเด็นที่สภาผู้แทนราษฎรเห็นด้วยและได้นำาไปบัญญัติไว้ใน

                     ร่างกฎหมายฉบับที่ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๔ ประเด็นดังกล่าว
                     ได้แก่ อำานาจในการห้ามชุมนุม การสั่งเลิกการชุมนุม หรือคัดค้านการชุมนุม ซึ่งคณะกรรมการฯ

                     เห็นว่าควรให้ฝ่ายบริหาร (ฝ่ายปกครอง) เป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายและรับผิดชอบการตัดสินใจ
                     ผู้จัดการชุมนุมมีสิทธิอุทธรณ์คำาสั่งต่อฝ่ายบริหารระดับสูงขึ้น และไม่ตัดสิทธิ์ในการนำาคดีไปสู่

                     ศาลปกครอง และการเพิ่มให้สถานที่ตั้งขององค์การระหว่างประเทศในประเทศไทยเป็นพื้นที่ห้ามไม่ให้
                     การชุมนุมกีดขวางทางเข้าออก อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายดังกล่าวไม่ได้ออกมาบังคับใช้เนื่องจาก

                     มีการยุบสภาผู้แทนราษฎร ขณะนี้ (พ.ศ. ๒๕๕๗) สำานักงานตำารวจแห่งชาตได้เสนอร่างกฎหมายนี้
                     ขึ้นใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

                                ๒.๒  เรื่องสิทธิในการรับบริการสาธารณสุขตามระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

                     ระบบประกันสังคม และระบบสวัสดิการข้าราชการ
                                คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีข้อเสนอแนะว่า ควรทบทวนแนวคิดและ

                     วิธีจัดบริการและระบบบริการสาธารณสุขของประเทศโดยอยู่บนฐานหลักความเสมอภาค และให้
                     ประเภทและมาตรฐานของบริการสาธารณสุขตามระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นบริการ

                     ขั้นพื้นฐานและที่จำาเป็นสำาหรับทุกคน พึงได้รับโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และขอให้แก้ไขพระราชบัญญัติ
                     หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๙ และ ๑๐ เพื่อประกันว่าผู้รับบริการไม่ว่าอยู่

                     ภายใต้ระบบบริการสาธารณสุขใดจะได้รับสิทธิการรับบริการเท่ากับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
                     เป็นอย่างน้อย โดยสำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนต่าง

                     ซึ่งพบว่ามีหน่วยงานของรัฐที่มีอำานาจหน้าที่หลายแห่งที่มีความเห็นสอดคล้องกับข้อเสนอแนะของ
                     คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เช่น กระทรวงการคลังและสำานักงาน ก.พ. เห็นด้วยกับ

                     การให้มีกลไกดูแลสวัสดิการด้านสุขภาพ  สำานักงาน ก.พ. และกระทรวงแรงงานเห็นด้วยกับ
                     ข้อเสนอแนะให้แก้ไขพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติฯ มาตรา ๙ และ ๑๐ ส่วน สปสช.

                     แจ้งว่าจะรับข้อเสนอแนะที่ให้ สปสช. รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนต่างไปศึกษาประโยชน์ ความจำาเป็น
                     ผลกระทบและปัญหาอุปสรรคก่อน


                                ๒.๓  เรื่องการอนุวัติกฎหมายไทยตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและ
                     การประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำายีศักดิ์ศรี และเพื่อเตรียม
                     รองรับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ รวมทั้งอนุสัญญา

                     ระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย

                                พบว่าหน่วยงานของรัฐที่มีอำานาจหน้าที่หลายแห่งเห็นสอดคล้องกับข้อเสนอแนะ
                     ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หน่วยงานดังกล่าว เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวง

                     การต่างประเทศ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวง
                     ยุติธรรม กระทรวงสาธารณสุข สำานักงานอัยการสูงสุด สำานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ
   282   283   284   285   286   287   288   289   290   291   292