Page 161 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 161

159
                                                   ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                                                   ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๑  ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗




                                (๕)  ห้ามการใช้อาคาร หรือเข้าไปหรืออยู่ในสถานที่ใดๆ

                                (๖)  ให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ที่กำาหนด เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
                     ดังกล่าว หรือห้ามผู้ใดเข้าไปในพื้นที่ที่กำาหนด

                                ข้อกำาหนดตามวรรคหนึ่ง จะกำาหนดเงื่อนเวลาในการปฏิบัติตามข้อกำาหนดหรือเงื่อนไข
                     ในการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่กำาหนดพื้นที่และ

                     รายละเอียดอื่นเพิ่มเติม เพื่อมิให้มีการปฏิบัติที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควร
                     แก่เหตุก็ได้

                                มาตรา ๑๑ ในกรณีที่สถานการณ์ฉุกเฉินมีการก่อการร้าย  การใช้กำาลังประทุษร้ายต่อ
                     ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน หรือมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำาที่มีความรุนแรงกระทบต่อความ

                     มั่นคงของรัฐ  ความปลอดภัยในชีวิตหรือทรัพย์สินของรัฐหรือบุคคล และมีความจำาเป็นที่จะต้อง
                     เร่งแก้ไขปัญหาให้ยุติได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที  ให้นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของ

                     คณะรัฐมนตรีมีอำานาจประกาศให้สถานการณ์ฉุกเฉินนั้นเป็นสถานการณ์ที่มีความร้ายแรง และให้
                     นำาความในมาตรา ๕ และมาตรา ๖ วรรคสอง มาใช้บังคับโดยอนุโลม

                                เมื่อมีประกาศตามวรรคหนึ่งแล้ว  นอกจากอำานาจตามมาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๙
                     และมาตรา ๑๐ ให้นายกรัฐมนตรีมีอำานาจ ดังต่อไปนี้ด้วย

                                (๑)  ประกาศให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำานาจจับกุมและควบคุมตัวบุคคลที่สงสัยว่า
                     จะเป็นผู้ร่วมกระทำาการให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือเป็นผู้ใช้ ผู้โฆษณา ผู้สนับสนุนการกระทำา

                     เช่นว่านั้น หรือปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำาให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน  ทั้งนี้ เท่าที่มีเหตุจำาเป็น
                     เพื่อป้องกันมิให้บุคคลนั้นกระทำาการหรือร่วมมือกระทำาการใดๆ อันจะทำาให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรง

                     หรือเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการระงับเหตุการณ์ร้ายแรง
                                (๒)  ประกาศให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำานาจออกคำาสั่งเรียกให้บุคคลใดมารายงานตัว

                     ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือมาให้ถ้อยคำา หรือส่งมอบเอกสารหรือหลักฐานใดที่เกี่ยวเนื่องกับ
                     สถานการณ์ฉุกเฉิน

                                (๓)  ประกาศให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำานาจออกคำาสั่งยึดหรืออายัดอาวุธ สินค้า เครื่อง
                     อุปโภคบริโภค เคมีภัณฑ์ หรือวัตถุอื่นใด ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่า ได้ใช้หรือจะใช้สิ่งนั้นเพื่อการ

                     กระทำาการหรือสนับสนุนการกระทำาให้เกิดเหตุสถานการณ์ฉุกเฉิน
                                (๔)  ประกาศให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำานาจออกคำาสั่งตรวจค้น รื้อ ถอน หรือทำาลาย

                     ซึ่งอาคาร สิ่งปลูกสร้าง หรือสิ่งกีดขวาง ตามความจำาเป็นในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อระงับเหตุการณ์
                     ร้ายแรงให้ยุติโดยเร็ว และหากปล่อยเนิ่นช้าจะทำาให้ไม่อาจระงับเหตุการณ์ได้ทันท่วงที

                                (๕)  ประกาศให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำานาจออกคำาสั่งตรวจสอบจดหมาย หนังสือ
                     สิ่งพิมพ์ โทรเลข โทรศัพท์ หรือการสื่อสารด้วยวิธีการอื่นใด ตลอดจนการสั่งระงับหรือยับยั้งการติดต่อ

                     หรือการสื่อสารใด เพื่อป้องกันหรือระงับเหตุการณ์ร้ายแรง โดยต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำาหนดไว้
                     ในกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษโดยอนุโลม
   156   157   158   159   160   161   162   163   164   165   166