Page 162 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 162

160   ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                  ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๑  ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗




                             (๖)  ประกาศห้ามมิให้กระทำาการใดๆ หรือสั่งให้กระทำาการใดๆ เท่าที่จำาเป็นแก่การ

                  รักษาความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยของประเทศ หรือความปลอดภัยของประชาชน
                             (๗)  ประกาศให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำานาจออกคำาสั่งห้ามมิให้ผู้ใดออกไปนอก

                  ราชอาณาจักร เมื่อมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า การออกไปนอกราชอาณาจักรจะเป็นการกระทบกระเทือน
                  ต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประเทศ

                             (๘)  ประกาศให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำานาจสั่งการให้คนต่างด้าวออกไปนอก
                  ราชอาณาจักร ในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า เป็นผู้สนับสนุนการกระทำาให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน

                  ทั้งนี้ โดยให้นำากฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองมาใช้บังคับโดยอนุโลม
                             (๙)  ประกาศให้การซื้อ ขาย ใช้ หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งอาวุธ สินค้า เวชภัณฑ์

                  เครื่องอุปโภคบริโภค เคมีภัณฑ์ หรือวัสดุอุปกรณ์อย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งอาจใช้ในการก่อความไม่สงบ
                  หรือก่อการร้าย ต้องรายงาน หรือได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือปฏิบัติตามเงื่อนไขที่

                  นายกรัฐมนตรีกำาหนด
                             (๑๐) ออกคำาสั่งให้ใช้กำาลังทหารเพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหรือตำารวจระงับ

                  เหตุการณ์ร้ายแรง หรือควบคุมสถานการณ์ให้เกิดความสงบโดยด่วน  ทั้งนี้ ในการปฏิบัติหน้าที่
                  ของทหารให้มีอำานาจหน้าที่เช่นเดียวกับอำานาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชกำาหนดนี้

                  โดยการใช้อำานาจหน้าที่ของฝ่ายทหารจะทำาได้ในกรณีใดได้เพียงใดให้เป็นไปตามเงื่อนไขและเงื่อนเวลา
                  ที่นายกรัฐมนตรีกำาหนด แต่ต้องไม่เกินกว่ากรณีที่มีการใช้กฎอัยการศึก

                             เมื่อเหตุการณ์ร้ายแรงตามวรรคหนึ่งยุติลงแล้ว ให้นายกรัฐมนตรีประกาศยกเลิกประกาศ
                  ตามมาตรานี้โดยเร็ว

                             มาตรา ๑๒ ในการจับกุมและควบคุมตัวบุคคลที่ต้องสงสัยตามประกาศในมาตรา ๑๑ (๑)
                  ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ร้องขอต่อศาลที่มีเขตอำานาจหรือศาลอาญาเพื่อขออนุญาตดำาเนินการ เมื่อได้รับ

                  อนุญาตจากศาลแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำานาจจับกุมและควบคุมตัวได้ไม่เกินเจ็ดวัน และต้อง
                  ควบคุมไว้ในสถานที่ที่กำาหนดซึ่งไม่ใช่สถานีตำารวจ ที่คุมขัง ทัณฑสถาน หรือเรือนจำา โดยจะปฏิบัติ

                  ต่อบุคคลนั้นในลักษณะเป็นผู้กระทำาความผิดมิได้  ในกรณีที่มีความจำาเป็นต้องควบคุมตัวต่อ
                  เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ร้องขอต่อศาลเพื่อขยายระยะเวลา

                  การควบคุมตัวต่อได้อีกคราวละเจ็ดวัน แต่รวมระยะเวลาควบคุมตัวทั้งหมดต้องไม่เกินกว่าสามสิบวัน
                  เมื่อครบกำาหนดแล้ว หากจะต้องควบคุมตัวต่อไป ให้ดำาเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา

                  ความอาญา
                             ในการดำาเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำารายงานเกี่ยวกับการจับกุม

                  และควบคุมตัวบุคคลนั้นเสนอต่อศาลที่มีคำาสั่งอนุญาตตามวรรคหนึ่ง และจัดสำาเนารายงานนั้นไว้
                  ณ ที่ทำาการของพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ญาติของบุคคลนั้นสามารถขอดูรายงานดังกล่าวได้ตลอด

                  ระยะเวลาที่ควบคุมตัวบุคคลนั้นไว้
   157   158   159   160   161   162   163   164   165   166   167