Page 124 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 124

122    ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                  ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๑  ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗




                               ๒)  ก�รอนุวัติกฎหม�ยภ�ยในให้เป็นไปต�มอนุสัญญ�ต่อต้�นก�รทรม�นฯ นี้ คณะอนุ-

                  กรรมการฯ เห็นว่าควรบัญญัติเป็นกฎหมายเฉพาะ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพในการบังคับใช้ และเป็นไป
                  ตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ แต่หากต้องใช้การแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาและ

                  ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเพื่ออนุวัติตามอนุสัญญานี้ การแก้ไขนั้นต้องครอบคลุม
                  ทุกประเด็นตามอนุสัญญาฯ และเมื่อมีมูลเหตุเชื่อได้ว่ามีกระทำาทรมานเกิดขึ้นต้องมีระบบตรวจสอบ

                  และถ่วงดุล โดยให้พนักงานอัยการมีบทบาทหลักในการสืบสวน สอบสวน รวมทั้งมีกฎหมายรองรับว่า
                  ผู้ถูกทำาร้ายจากการทรมานจะได้รับการชดใช้ทดแทน มีสิทธิบังคับคดีขอค่าสินไหมทดแทน และได้รับ

                  การบำาบัดฟื้นฟู

                               ๓)  คณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงยุติธรรม ควรให้ความสำาคัญต่อการคุ้มครองและ
                  ช่วยเหลือบุคคลจากการถูกกระทำาด้วยการทรมาน รวมทั้งควรให้มีหน่วยงานรับผิดชอบเรื่องนี้

                  โดยเฉพาะการจัดทำาข้อเสนอให้มีหน่วยงานดังกล่าวควรอยู่บนฐานการศึกษาวิจัย หลักการด้าน
                  สิทธิมนุษยชน ประโยชน์สูงสุดที่จะได้รับโดยเปรียบเทียบกับแนวทางอื่น


                               ๔)  ข้อเสนอของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภ�พ และคณะกรรม�ธิก�รก�รกฎหม�ย
                  ก�รยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภ�ผู้แทนร�ษฎร ซึ่งอนุวัติกฎหมายภายในโดยวิธีแก้ไขประมวล

                  กฎหมายอาญาและประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ยังไม่ครอบคลุมหลักเกณฑ์ที่กำาหนด
                  ในอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ เช่น ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา

                  ที่เสนอโดยคณะกรรมาธิการฯ ไม่ครอบคลุมนิยาม “การทรมาน” ตามข้อ ๑ ของอนุสัญญาต่อต้าน
                  การทรมานฯ บางประการ และไม่ครอบคลุมการกระทำาอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือ

                  การประติบัติ หรือการลงโทษที่ย่ำายีศักดิ์ศรี ตามข้อ ๑๖ ของอนุสัญญาฯ ส่วนร่างพระราชบัญญัติ
                  แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาที่เสนอโดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ

                  และคณะกรรมาธิการฯไม่ได้รับรองไว้ชัดเจนว่า ผู้ถูกทำาร้ายจากการกระทำาทรมานจะได้รับการชดใช้
                  ทดแทน ทั้งไม่มีระบบถ่วงดุลโดยพนักงานอัยการ

                               ๕)  เนื่องจ�กผู้กระทำ�ผิดฐ�นกระทำ�ทรม�นหรือผู้เกี่ยวข้องส่วนใหญ่เป็นเจ้�หน้�ที่ตำ�รวจ

                  จึงเห็นว่า พนักงานอัยการควรเป็นผู้มีอำานาจหน้าที่ในการสืบสวน สอบสวนรวบรวมกลั่นกรองพยาน
                  หลักฐานต่างๆ และมีดุลพินิจในการดำาเนินการในชั้นไต่สวน กรณีความผิดฐานกระทำาทรมานตาม

                  ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มาตรา
                  ๙๐/๑ อันทำาให้การไต่สวนมีการถ่วงดุล เป็นอิสระ และเที่ยงธรรม ทั้งพนักงานอัยการยังรับผิดชอบ

                  การยื่นคำาร้องดำาเนินการไต่สวนในศาลโดยตรงอีกด้วย

                               ๖)  คณะรัฐมนตรีควรทบทวนก�รบังคับใช้กฎหม�ยพิเศษด้�นคว�มมั่นคงให้สอดคล้องกับ

                  อนุสัญญ�ต่อต้�นก�รทรม�นฯ ซึ่งกำาหนดว่า ไม่มีพฤติการณ์พิเศษใด ไม่ว่าจะเป็นภาวะสงคราม หรือ
                  สภาพคุกคามที่จะเกิดสงคราม การขาดเสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศ หรือสภาวะฉุกเฉิน
                  สาธารณะอื่นใดที่ยกขึ้นมาเป็นข้ออ้างที่มีเหตุผลสำาหรับทรมานได้
   119   120   121   122   123   124   125   126   127   128   129