Page 120 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 120

118   ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                  ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๑  ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗




                                   ๒.  ให้รัฐภาคีแต่ละรัฐทำาให้ความผิดเหล่านี้เป็นความผิดที่มีโทษ ซึ่งมีระวางโทษ

                  ที่เหมาะสมกับความร้ายแรงของการกระทำาเหล่านั้น
                                   ข้อ ๕

                                   ๑.  ให้รัฐภาคีแต่ละรัฐดำาเนินการต่างๆ ที่อาจจำาเป็นเพื่อให้ตนมีเขตอำานาจเหนือ
                  ความผิดที่อ้างถึงในข้อ ๔ ในกรณีต่างๆ ดังต่อไปนี้

                                       (ก) เมื่อความผิดเหล่านั้นเกิดขึ้นในอาณาเขตใดที่อยู่ภายใต้เขตอำานาจตน
                  หรือบนเรือ หรืออากาศยานที่จดทะเบียนในรัฐนั้น

                                       (ข) เมื่อผู้ถูกกล่าวหาเป็นคนชาติของรัฐนั้น
                                       (ค) เมื่อผู้เสียหายเป็นคนชาติของรัฐนั้นหากรัฐนั้นเห็นเป็นการสมควร

                                   ๒.  .................
                                   ข้อ ๘

                                   ๑.  ความผิดที่อ้างถึงในข้อ ๔ ให้ถือว่ารวมอยู่ในความผิดทั้งปวงที่ส่งตัวบุคคล
                  เป็นผู้ร้ายข้ามแดนได้ ในสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนใดที่มีอยู่ระหว่างรัฐภาคี รัฐภาคีรับที่จะรวม

                  เอาความผิดเช่นว่าเข้าไปอยู่ในสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนทุกฉบับที่จะทำาขึ้นระหว่างกันในอนาคต
                  ในฐานะความผิดต่างๆ ที่ส่งตัวบุคคลเป็นผู้ร้ายข้ามแดนได้

                                   ๒.  ...................
                                   ข้อ ๑๐

                                   ๑.  รัฐภาคีแต่ละรัฐต้องประกันว่า การศึกษาและข้อสนเทศเกี่ยวกับการห้าม
                  การทรมานเข้าไปบรรจุอย่างสมบูรณ์ในหลักสูตรการฝึกอบรมบุคลากรที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย

                  ทั้งที่เป็นพลเรือนหรือทหาร พนักงานทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่รัฐและบุคคลอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้องกับ
                  การควบคุมตัว การสอบสวน หรือการประติบัติต่อปัจเจกบุคคลที่ตกอยู่ภายใต้ภาวะของการถูกจับ

                  การกักขัง หรือการจำาคุกไม่ว่าในรูปแบบใด
                                   ๒.  ให้รัฐภาคีแต่ละรัฐนำาข้อห้ามนี้เข้าไปบรรจุอยู่ในกฎเกณฑ์ หรือคำาสั่งที่

                  ออกมาเกี่ยวกับหน้าที่และภารกิจของบุคคลเช่นว่า
                                   ข้อ ๑๑

                                   ให้รัฐภาคีแต่ละรัฐพิจารณาทบทวนอย่างเป็นระบบสำาหรับกฎเกณฑ์ คำาสั่ง วิธีการ
                  และแนวทางปฏิบัติในการไต่สวน ตลอดจนการจัดระเบียบทั้งปวง สำาหรับการควบคุมและการ

                  ประติบัติต่อบุคคลที่ตกอยู่ใต้ภาวะของการจับ การกักขัง และการจำาคุกไม่ว่าในรูปแบบใด ในอาณาเขต
                  ที่อยู่ภายใต้เขตอำานาจของตน เพื่อที่จะป้องกันมิให้เกิดมีกรณีการทรมานใดขึ้น

                                   ข้อ ๑๒
                                   ให้รัฐภาคีแต่ละรัฐประกันว่า เจ้าพนักงานผู้มีอำานาจของตนดำาเนินการสืบสวน

                  โดยพลัน และโดยปราศจากการลำาเอียง เมื่อใดก็ตามที่มีมูลเหตุอันสมเหตุสมผลที่จะเชื่อได้ว่า ได้มี
   115   116   117   118   119   120   121   122   123   124   125