Page 54 - โครงการศึกษาวิจัย เรื่อง สิทธิชุมชนและผลกระทบโครงการพัฒนาภาคใต้
P. 54
๔๐
๔.๒.๓ แผนพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ระยะที่ ๓
ศูนย์กลางพลังงานในภูมิภาคและธุรกิจปิโตรเคมีระดับโลก
การพัฒนาเส้นทางยุทธศาสตร์พลังงานและขยายอุตสาหกรรมปิโตรเคมีลงสู่ภาคใต้
หลังจากที่มีการค้นพบก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๖ ต่อมาอีก ๗ ปี ใน
พ.ศ. ๒๕๒๓ สมัยพลเอกเปรม ตินสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อ
พัฒนาอุตสาหกรรมพื้นฐานบริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก และในปี พ.ศ. ๒๕๒๔ ก็ได้มีการเปลี่ยนชื่อ
คณะกรรมการดังกล่าวไปเป็นคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก รวมทั้งมีการบรรจุ
โครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกเข้าในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ ๕
นอกจากนี้คณะรัฐมนตรีก็ได้มีมติเห็นชอบแผนพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมีระยะที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๒๓-
๒๕๓๒) ซึ่งเป็นแผนสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เพื่อเพิ่มมูลค่าก๊าซธรรมชาติที่ค้นพบใน
อ่าวไทย
การพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในระยะเริ่มแรกของประเทศไทยนั้น ดําเนินการโดย
การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งและเดินเครื่องโรงแยกก๊าซธรรมชาติ
ของประเทศไทยขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๗ และเป็นผู้ผลักดันหลักด้วยการร่วมทุนกับเอกชนในการจัดตั้ง
บริษัท ปิโตรเคมีแห่งชาติ เพื่อผลิตเอทีลีนและโพรพิลีน จากก๊าซธรรมชาติ เพื่อส่งต่อไปเป็นวัตถุดิบใน
การผลิตเม็ดพลาสติกโพลีเอธีลีน โพลีโพรไพลีน และพีวีซี และในปี พ.ศ. ๒๕๓๐ รัฐบาลไทยก็ได้
ตัดสินใจดําเนินการพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ตามมาด้วยการเห็นชอบแผนพัฒนา
อุตสาหกรรมปิโตรเคมีระยะที่ ๒ (๒๕๓๒-๒๕๔๗) ในปี ๒๕๓๑ โดยมุ่งเน้นพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
ให้มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้น มีการเพิ่มกําลังการผลิตสายโอเลฟินส์ และเริ่มพัฒนาการผลิต
สายอะโรมาติกส์ ซึ่งใช้แนฟธา เป็นวัตถุดิบด้วย และในช่วงดังกล่าวนี้รัฐบาลได้มีการกําหนดนโยบายการ
ส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมปิโตรเคมีอย่างชัดเจน ได้แก่ การให้สิทธิประโยชน์ในการลงทุน การ
คุ้มครองด้านภาษีนําเข้า การห้ามตั้ง และห้ามขยายโรงงานปิโตรเคมีโดยไม่ได้รับอนุญาต ฯลฯ จนกระทั่งปี
พ.ศ. ๒๕๓๘ รัฐบาลได้เปิดเสรีอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ส่งผลให้เอกชนทั้งในและต่างประเทศขยายการ
ลงทุนในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นต้นไปจนถึงขั้นปลาย ทําให้การดําเนินงานของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
เปลี่ยนแปลงจากบริษัทรายย่อยมาเป็นกลุ่มโรงงานปิโตรเคมีครบวงจรที่มีการผลิตผลิตภัณฑ์หลายชนิด
หน่วยงานที่รับผิดชอบหลักในการการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในระยะที่ ๑-๒ นั้น ได้แก่
คณะกรรมการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก คณะกรรมการปิโตรเคมี กระทรวงอุตสาหกรรม และ
ภาคธุรกิจเอกชนอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
หลังจากได้มีการจัดตั้งกระทรวงพลังงานขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ในยุคสมัย
นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๕ โดยมีนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็น