Page 56 - โครงการศึกษาวิจัย เรื่อง สิทธิชุมชนและผลกระทบโครงการพัฒนาภาคใต้
P. 56
๔๒
วงเงิน ๑๕,๓๓๐,๔๒๕ บาท เป็นระยะเวลารวม ๘ เดือน (ธันวาคม ๒๕๔๖-สิงหาคม ๒๕๔๗) เพื่อ
กําหนดทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเลียมอย่างเป็นระบบ รวมทั้งศึกษาประเมินมูลค่าเพิ่มของ
การนําก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีอยู่ภายในประเทศมาเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
การศึกษาแล้วเสร็จเมื่อมกราคม ๒๕๔๘ โดยได้กําหนดกลยุทธ์เป้าหมายสําหรับการพัฒนา
อุตสาหกรรมปิโตรเคมีระยะที่ ๓ ไว้ โดยมีเป้าหมายที่จะ (๑) สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับก๊าซธรรมชาติ และ
เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง (๒) ขยายการผลิตปิโตรเคมี
ในเขตมาบตาพุดให้เกิดเป็นคลัสเตอร์ที่เข้มแข็ง และพัฒนาอุตสาหกรรมบางส่วนที่อําเภอสิชลให้สอดรับ
กับโครงการสะพานเศรษฐกิจ (Land Bridge) ที่จะเกิดขึ้น โดยเสนอทางเลือกเกี่ยวกับพื้นที่เหมาะสม
สําหรับเป็นสถานที่ตั้งคอมเพล็กซ์อุตสาหกรรมปิโตรเคมี ระยะที่ ๓ ที่มีทางเลือกเป็น ๒ ทาง ซึ่งปัจจุบัน
การพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในระยะที่ ๓ ได้พิจารณาใช้ทางเลือกที่ ๒ โดยได้แยกพื้นที่การพัฒนา
คอมเพล็กซ์อุตสาหกรรมปิโตรเคมีออกเป็น ๒ ระยะ คือ
- ระยะที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๔๗–๒๕๕๘) ตั้งอยู่ในพื้นที่อําเภอมาบตาพุด จังหวัด
ระยอง และพื้นที่ใกล้เคียง โดยจะมี ๒๙ ผลิตภัณฑ์ และ ๓๔ โรงงาน
- ระยะที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๕๙–๒๕๖๑) ตั้งอยู่ในพื้นที่เส้นทางยุทธศาสตร์พลังงาน
ฝั่งตะวันออก บริเวณอําเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้เกิดการสอดรับกับการพัฒนา
อุตสาหกรรมปิโตรเคมี และการเป็นศูนย์กลางการค้าน้ํามัน โดยจะมี ๒๒ โรงงาน
๔.๒.๔ แผนพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้
๑) ความเป็นมาของแผนพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ (พ.ศ. ๒๕๓๒ – ๒๕๔๙)
สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (๒๕๕๔) และ
เพ็ญโฉม สุพจน์ และแก้วตา (๒๕๔๘) ได้จัดทําเอกสารรายงานการศึกษาเรื่องการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่ง
ทะเลภาคใต้ และ เอกสารแผนภูมิภาค–ภาคใต้ สามารถสรุปพัฒนาการความเป็นมาของแผนพัฒนา
พื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ หรือเซาเทิร์นซีบอร์ด (Southern Seaboard Development Plan, SSB) ได้
ดังนี้
ก่อนที่จะมีการเริ่มต้นแผนพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคใต้ในปี ๒๕๓๒ นั้น
นับตั้งแต่ปี ๒๕๑๘ สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้มีการ
จัดจ้างบริษัทที่ปรึกษาต่างประเทศ (Hunting Technical Service) มาทําการศึกษาและวางแผนการใช้
ทรัพยากรต่าง ๆ ในภาคใต้ ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๒๘ องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น
(Japan International Cooperation Agency, JICA) ได้ทําการศึกษาวางแผนพัฒนาภาคใต้ตอนบนใน