Page 92 - รายงานการศึกษาเรื่องโทษประหารชีวิตในประเทศไทย
P. 92

๒.๔.๓ พิธีส�รเลือกรับฉบับที่สอง  แห่งกติก�ระหว่�งประเทศว่�ด้วย
                                     สิทธิพลเมืองและสิทธิท�งก�รเมือง (Second Optional Protocol

                                     to  the  International  Covenant  on  Civil  and  Political
                                     Rights)

                                     พิธีสารฉบับนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง

                     และสิทธิทางการเมือง แม้ว่าประเทศไทยจะยังไม่ได้เป็นภาคีฉบับที่สองนี้ แต่เนื่องจากประเทศไทย
                     ได้เป็นภาคีแล้วตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๙ จึงควรพิจารณาถึงสาระของพิธีสาร ซึ่งเห็นว่าข้อ ๖ ของกติกา

                     ระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง  กล่าวถึงการยกเลิกโทษประหารชีวิต
                     โดยเสนอแนะอย่างจริงจังว่าการยกเลิกนี้เป็นสิ่งอันพึงปรารถนา  จึงเชื่อมั่นว่ามาตรการทั้งมวล

                     ในการยกเลิกโทษประหารชีวิต จะต้องถือเป็นความก้าวหน้าในการมีสิทธิที่จะมีชีวิต และมุ่งมั่นที่จะ
                     ดำาเนินการเพื่อปฏิบัติตามข้อผูกพันระหว่างประเทศ ในการยกเลิกโทษประหารชีวิต พิธีสารกำาหนดว่า

                                     ข้อ ๑ ไม่มีบุคคลใดที่อยู่ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายของรัฐภาคีในพิธีสาร
                     ฉบับนี้จะถูกประหารชีวิตได้

                                     รัฐภาคีแต่ละรัฐต้องดำาเนินมาตรการที่จำาเป็นทุกอย่างเพื่อยกเลิกโทษประหารชีวิต
                     ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายของตน

                                     ข้อ ๒ พิธีสารฉบับนี้ไม่ยอมรับข้อสงวนใดๆ  ยกเว้นข้อสงวนที่กระทำาในเวลา
                     สัตยาบัน  หรือเมื่อเข้าภาคยานุวัติ  ซึ่งเปิดโอกาสให้ใช้บทลงโทษประหารชีวิตระหว่างสงคราม

                     ตามคำาพิพากษาคดีอาญาร้ายแรงที่สุดทางทหารที่กระทำาในระหว่างสงคราม
                                     พิธีสารเลือกรับฉบับที่สอง  แห่งกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง

                     และสิทธิทางการเมือง (Second Optional Protocol to the International Covenant on Civil
                     and Political Rights) มีวัตถุประสงค์สำาคัญที่ต้องการให้ประเทศต่าง ๆ มีการยกเลิกโทษประหารชีวิต

                     โดยกำาหนดให้เมื่อประเทศสมาชิกได้มีการลงนามแล้ว จะต้องไม่มีการลงโทษประหารชีวิตในประเทศ
                     ดังกล่าวสำาหรับอาชญากรรมร้ายแรงทั่วไป (Ordinary Crime) ทุกประเภทคดี หากแต่สามารถใช้

                     โทษประหารชีวิตสำาหรับอาชญากรรมร้ายแรง (Most Serious Crime) ระหว่างสงครามตามคำาพิพากษา
                     คดีอาญาร้ายแรงทางทหารที่กระทำาในระหว่างสงคราม  โดยมีพฤติกรรมการกระทำาผิดที่ละเมิดต่อ

                     ความมั่นคงของประเทศและความสงบเรียบร้อยของสังคม การละเมิดกฎอัยการศึก หรือกฎหมาย
                     ที่เกี่ยวข้องกับคดีอาญาที่ร้ายแรงทางทหารในขณะเกิดภาวะสงคราม การก่อการร้าย และการกบฏ

                     โดยส่วนหนึ่งเป็นพฤติกรรมการกระทำาผิดที่เกี่ยวข้องกับการสูญเสียชีวิตโดยเป็นการฆาตกรรม
                     โดยเจตนาเป็นสำาคัญ (Eric Neumayer, 2008)
















                                                                       โทษประหารชีวิตในประเทศไทย 79
   87   88   89   90   91   92   93   94   95   96   97