Page 28 - รายงานการศึกษาเรื่องโทษประหารชีวิตในประเทศไทย
P. 28
วิทยาคลาสสิค ซึ่งประกอบด้วย ทฤษฎีเจตจำานงอิสระ (Free Will) เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีเจตจำานง
อิสระในการกระทำาสิ่งที่ก่อให้เกิดประโยชน์มากกว่าเสียประโยชน์เสมอ โดยมนุษย์จะมีเหตุผล
ในการเลือกการกระทำา และสอดคล้องทฤษฎีอรรถประโยชน์นิยม (Utilitarianism Philosophy)
ที่เชื่อว่าพฤติกรรมของมนุษย์เกิดขึ้นเนื่องจากได้พิจารณาถึงผลที่จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ดังนั้น การลงโทษด้วยการประหารชีวิตในสังคมจะมีความสอดคล้องกับทฤษฎีเจตจำานงอิสระ
(Free Will) ทฤษฎีอรรถประโยชน์นิยม (Utilitarianism Philosophy) และสัญญาประชาคม
(Social Contract) ที่การลงโทษประหารชีวิต เพื่อให้บุคคลในสังคมเห็นว่าไม่ควรประกอบ
อาชญากรรม หรือการละเมิดต่อสัญญาประชาคมที่ได้กำาหนดไว้ เพราะโทษประหารชีวิต
เป็นสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการกระทำาผิด หากแต่ยังทำาให้มนุษย์ต้องเสียประโยชน์
อันสูงสุดของชีวิต คือ การสูญเสียชีวิตเพื่อแลกกับการละเมิดสัญญาประชาคมที่ได้กำาหนดไว้
ดังนั้น การใช้โทษประหารชีวิตตามแนวคิดทฤษฎีดังกล่าวข้างต้นจึงจำาเป็นต้องมีในสังคม เพื่อให้
สมาชิกของสังคมได้เกิดความเกรงกลัวอันจะนำาไปสู่ความสงบสุขของสังคมเป็นสำาคัญ
๓) ทฤษฎีก�รลงโทษเพื่อยับยั้งหรือป้องกันอ�ชญ�กรรม หรือปรับปรุงผู้กระทำ�ผิด
(Restraint Theory)
นักปรัชญาและนักกฎหมายในยุโรป อาทิ ซีซาร์ เบ็คคาเรีย (Cesare Beccaria,
1728 – 1794) และเจเรมี เบนแธม (Jeremy Bentham, 1748 – 1832) ซึ่งเป็นผู้นำาของ
สำานักอาชญาวิทยาและทัณฑวิทยา สำานักอาชญาวิทยาคลาสสิค และนีโอ-คลาสสิค ได้เสนอ
แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับอาชญากรรม และการลงโทษผู้กระทำาผิดขึ้นใหม่ โดยเชื่อว่าผู้กระทำาผิด
ได้กระทำาผิดโดยเจตนาเพื่อแสวงหาความสุข และหลีกเลี่ยงความทุกข์ ดังนั้น รัฐควรจะบัญญัติ
กฎหมายไว้ให้ชัดเจนว่าการกระทำาใดเป็นความผิด และมีโทษบัญญัติไว้โดยชัดแจ้ง เพื่อให้ทุกคน
ในสังคมได้รับทราบ เมื่อมีกฎหมายบัญญัติไว้แล้วเช่นนี้ ผู้ที่ฝ่าฝืนก็จะมีความผิดและต้องรับโทษ
ตามกฎหมาย (สุพจน์ สุโรจน์, ๒๕๕๐)
โดยผู้นำาคนสำาคัญของสำานักนี้ คือ ซีซาร์ เบ็คคาเรีย เป็นผู้ที่ลุกขึ้นมาคัดค้าน
การใช้อำานาจรัฐในการลงโทษที่ทารุณโหดร้ายและไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะการลงโทษประหารชีวิต
ซึ่งผู้มีอำานาจปกครองและผู้นำาทางศาสนาใช้เป็นเครื่องมือในการกำาจัดฝ่ายตรงข้าม หรือผู้ที่มี
ความคิดคัดค้าน และได้ลงโทษประหารชีวิตประชาชนไปเป็นจำานวนมาก โดยไม่มีการไต่สวน
ที่เป็นธรรม เบ็คคาเรียเรียกร้องให้มีการปรับปรุงแก้ไขกระบวนการยุติธรรม โดยเสนอให้
ผู้พิพากษามีอำานาจหน้าที่ในการพิจารณาความผิดของจำาเลยเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ให้มีอำานาจ
ในการกำาหนดระวางโทษ และการออกกฎหมายควรเป็นอำานาจหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติเท่านั้น
นักปรัชญาของสำานักอาชญาวิทยาคลาสสิคมีแนวคิดว่า รัฐได้อำานาจการปกครองมาจากประชาชน
โทษประหารชีวิตในประเทศไทย 15