Page 194 - รายงานการศึกษาเรื่องโทษประหารชีวิตในประเทศไทย
P. 194
เกิดประโยชน์สูงสุดแต่ประการใด นอกจากนี้ การใช้โทษประหารชีวิตไม่สามารถมีผลต่อการยับยั้ง
อาชญากรรมได้อย่างแท้จริง รวมทั้งเป็นการกระทำาที่ขัดต่อหลักของศาสนา ไม่ว่าจะเป็นการกระทำา
ที่ขัดต่อหลักการของศาสนาพุทธ คือ ข้อกำาหนดของศีลข้อที่ ๑ ที่ห้ามฆ่าสัตว์ นอกจากนี้ ข้อกำาหนด
ของศาสนายิว (Judiasm) ปีที่ ๗๐ ก่อน คริสตศักราช ได้มีการยกเลิกโทษประหารชีวิตเนื่องจากเห็นว่า
เป็นการลงโทษที่มีความโหดร้ายทารุณ เป็นการลงโทษที่พระเจ้าเท่านั้นที่มีความเหมาะสมต่อการใช้
โทษดังกล่าว โดยในโรงเรียนกฎหมายต่าง ๆ ได้มีการกล่าวอ้างถึงข้อความของนักปราชญ์ชาวยิว
Maimonides ที่กล่าวว่า “การปล่อยคนกระทำาผิดจำานวน ๑,๐๐๐ คน เป็นสิ่งที่ดีกว่าการนำา
คนบริสุทธิ์เพียงคนเดียวมาลงโทษจนกระทั่งเสียชีวิต”
แม้กระทั่งข้อกำาหนดของศาสนาอิสลาม ที่ได้มีข้อกำาหนดที่อนุญาตให้สามารถ
ประหารชีวิตได้ แต่เหยื่อหรือครอบครัวของเหยื่อมีสิทธิที่จะขออภัยโทษได้ และจากคำาสอน
ของศาสนาคริสต์ที่แม้จะมีการแบ่งเป็นนิกายต่าง ๆ และในอดีตบางนิกายอาจจะเห็นด้วยกับ
การใช้โทษประหารชีวิต ในขณะที่บางนิกายอาจจะไม่เห็นด้วยกับการใช้โทษประหารชีวิต
แต่ในปัจจุบันนี้ผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์มีความคิดเห็นที่สอดคล้องกันต่อการใช้โทษประหารชีวิต คือ
ไม่เห็นด้วยต่อการใช้โทษประหารชีวิต
นอกจากนี้ สถานการณ์เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยและในหลายประเทศทั่วโลก
มองว่าการลงโทษประหารชีวิตเป็นการกระทำาที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม ขัดต่อหลักการพื้นฐาน
สิทธิมนุษยชน คือ สิทธิในการมีชีวิต (Right to Life) และหากมีความผิดพลาดในกระบวนการยุติธรรม
ก็อาจมีการลงโทษผู้ที่มิได้กระทำาความผิดได้ และถ้าคำานึงถึงกระบวนการยุติธรรมสมัยใหม่ที่ให้
ความสำาคัญด้านการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำาผิด การลงโทษประหารชีวิตก็เท่ากับเป็นการตัดโอกาสไม่ให้
ผู้กระทำาผิดได้แก้ไขฟื้นฟูตัวเอง ซึ่งเป็นเหตุผลที่สำาคัญที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์
ด้านสิทธิมนุษยชนของหลายประเทศในปัจจุบัน
สำาหรับแนวคิดด้านการให้ความสำาคัญต่อสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศที่มีผลต่อแนวคิด
ในการยกเลิกโทษประหารชีวิต ประกอบด้วย ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal
Declaration of Human Rights) ถือเป็นมาตรฐานที่ประเทศสมาชิกสหประชาชาติที่ได้ร่วมกัน
จัดทำาเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของประชาชนทั่วโลก ซึ่งการประหารชีวิตถือเป็น
การปฏิบัติต่อผู้กระทำาผิดที่เป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานในการมีชีวิตของมนุษย์ ตามปฏิญญา
สากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน รวมทั้งพิธีสารเลือกรับกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง
และสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights : ICCPR)
มีข้อกำาหนดที่สำาคัญต่อการเคารพสิทธิเสรีภาพและความปลอดภัยของพลเมืองในประเทศ
เป็นสำาคัญ ซึ่งประเทศไทยได้มีการปฏิบัติตามข้อกำาหนดของพิธีสารดังกล่าวในประเด็น
ที่เกี่ยวข้องกับการยกเลิกโทษประหารชีวิตสำาหรับผู้ที่มีอายุต่ำากว่า ๑๘ ปี และสตรีผู้ที่
ตั้งครรภ์ นอกจากนี้ จากพิธีสารเลือกรับฉบับที่สอง แห่งกติการะหว่างประเทศว่าด้วย
สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (Second Optional Protocol to the International
โทษประหารชีวิตในประเทศไทย 181