Page 155 - รายงานการศึกษาเรื่องโทษประหารชีวิตในประเทศไทย
P. 155

ใครจะรู้ว่าเขาไม่ได้ทำาผิด โดยควรจะเปลี่ยนจากโทษประหารชีวิตมาเป็นการลงโทษจำาคุกระยะยาว
                  เช่น ๒๐-๒๕ ปี แทน มักมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ถามว่า หากไม่ประหารชีวิตแล้วจะเอางบประมาณ

                  ที่ไหนมาทางเลือกหนึ่ง  คือ  ให้ปล่อยนักโทษที่จำาคุกมาแล้วสองในสามของโทษ  ไปบำาเพ็ญ

                  ประโยชน์แทน หากใช้วิธีนี้ก็จะสามารถลดจำานวนนักโทษได้ราว ๔๐,๐๐๐ - ๕๐,๐๐๐ คน


                           น�งส�วพูนสุข พูนสุขเจริญ ทน�ยคว�มเครือข่�ยนักกฎหม�ยสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า

                  เห็นด้วยกับการยกเลิกโทษประหารชีวิต เพราะชีวิตคนมีคุณค่า และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าจะเห็นตรงกัน

                  ทั่วโลก  โดยมนุษย์อาจดูถูกมนุษย์ด้วยกันเองว่าไม่สามารถพัฒนาได้  แต่มีตัวอย่างกรณีที่นอร์เวย์
                  ที่นักโทษสังหารหลายศพ  ฆาตกรยอมรับสารภาพและมีความคิดของสังคมส่วนหนึ่งที่อยากให้
                  นำาโทษประหารชีวิตซึ่งถูกยกเลิกไปแล้วกลับมาใช้ใหม่ แต่ศาลนอร์เวย์ก็ยังยืนยันให้ลงโทษขั้นสูงสุด

                  ตามกฎหมาย คือ โทษจำาคุก ๒๑ ปี ประเด็นที่น่าสนใจ คือ ในตัวคำาพิพากษาซึ่งกำาหนดเงื่อนไขว่า

                  หากครบกำาหนดลงโทษจำาคุก ๒๑ ปีแล้วยังพบว่ามีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง ก็ยังลงโทษจำาคุกต่อได้
                           กระบวนการยุติธรรมไทยสมควรหรือไม่ที่จะขังบุคคลหนึ่งไปเป็นระยะเวลานานหรือกระทั่ง
                  ตลอดชีวิต โดยไม่ต้องมีการทบทวนเลย ซึ่งหลายคนเห็นว่า กระบวนการยุติธรรมของไทยยังไม่มี

                  ประสิทธิภาพ  จึงควรให้คงโทษประหารชีวิตไว้  แต่สังคมอื่นที่กระบวนการยุติธรรมมีประสิทธิภาพ

                  มากกว่า  มีการกลั่นกรองคดีมากกว่า  มีพยานหลักฐานในการฟ้องคดีที่หนักแน่น  ยังยกเลิก
                  โทษประหารชีวิต จึงเป็นมุมมองที่สังคมไทยควรจะปรับเปลี่ยนมุมมอง



                           น�งส�วพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ มูลนิธิผส�นวัฒนธรรม เสนอว่าประเทศไทยควรยกเลิก

                  โทษประหารชีวิต ให้เหลือโทษจำาคุก แต่ทั้งนี้ก็ควรกำาหนดเงื่อนไขบางอย่างกำากับ เช่น กำาหนดว่า
                  มีระยะเวลาหนึ่งที่ไม่สามารถลดโทษได้ เพราะกระบวนการแบบที่เป็นอยู่ปัจจุบันนั้นไม่มีความโปร่งใส
                  คนที่มีโอกาสมากกว่าบุคคลอื่น ๆ หรือมีเส้นสายจึงจะได้รับการลดโทษ




                           น�ยเกรียง วิศิษฎ์สรอรรถ ทน�ยคว�ม และผู้ทรงคุณวุฒิด้�นกฎหม�ยและกระบวนก�ร
                  ยุติธรรมของคณะกรรมก�รสิทธิมนุษยชนแห่งช�ติ เห็นว่า แม้ที่ประชุมค่อนข้างโน้มเอียงไปทาง
                  ให้ยกเลิกโทษประหารชีวิต แต่เราจำาเป็นต้องคำานึงถึงความรู้สึกของผู้เสียหายและคนที่ถูกทำาร้ายด้วย

                  ตนเองในฐานะทนายความก็เคยเกลี้ยกล่อมจำาเลยที่อาจต้องโทษประหารชีวิตว่าให้รับสารภาพ

                  ซึ่งศาลก็ลงโทษเหลือจำาคุกตลอดชีวิตแทน
                           “ผมก็ยังเห็นว่าโทษประหารชีวิตมีความจำาเป็น และโทษประหารชีวิตยังสามารถขออภัยโทษ
                  ให้เหลือจำาคุกตลอดชีวิตได้ สิ่งเหล่านี้บ้านเรายังมีผ่อนหนักผ่อนเบาได้”

                  โอกาสที่อาชญากรโดยสันดานจะเลิกทำาผิดนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้  ถ้าไม่มีโทษประหารชีวิต

                  อาชญากรรมต้องสูงขึ้นแน่นอน








      142      คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
   150   151   152   153   154   155   156   157   158   159   160