Page 146 - รายงานการศึกษาเรื่องโทษประหารชีวิตในประเทศไทย
P. 146

ความผิดคืออะไร  เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน  นอกจากนี้  ถ้าจะยกเลิกโทษประหารชีวิต
                     ต้องมีมาตรการอย่างใดอย่างหนึ่ง ควรทำาประชามติเรื่องนี้ด้วย




                             รองศ�สตร�จ�รย์ณรงค์ ใจห�ญ กล่าวว่า ข้อถกเถียงว่าควรมีหรือไม่มีโทษประหารชีวิต
                     ถกเถียงกันมานานแล้ว และคงต้องถกเถียงกันต่อไปว่าโทษประหารชีวิตควรจะมีหรือไม่ และท้ายที่สุด
                     คงต้องเป็นเรื่องของนโยบายหรือความเห็นร่วมของชาวไทยว่าจะให้คงอยู่หรือไม่ อย่างไร สำาหรับ

                     มุมมองของกระบวนการยุติธรรมต่อความเห็นในเรื่องโทษประหารชีวิต ประกอบด้วย

                             ประเด็นแรก คือ ข้อสนับสนุน พบว่าวัตถุประสงค์ของการลงโทษประหารชีวิตมีหลายประการ
                     และใช้กับผู้กระทำาผิดในแต่ละลักษณะ แต่เป้าหมายของการลงโทษคนที่กระทำาความผิดอาญา คือ
                     จะทำาอย่างไรไม่ให้เขากระทำาความผิดซ้ำา อันจะส่งผลให้สังคมมีความปลอดภัย ดังนั้น วิธีที่จะลด

                     การกระทำาผิดซ้ำา  ก็อาจจะต้องเลือกว่าจะแก้ไขหรือข่มขู่ผู้กระทำาผิด  หรือจะให้ผู้กระทำาผิดอยู่ใน

                     ความควบคุมตลอดไป  เช่น  โทษจำาคุกตลอดชีวิต  หรือว่าตัดออกไปจากสังคม  ข้อสนับสนุน
                     ของโทษประหารชีวิต  คือ  ถ้าประหารชีวิตแล้วสังคมจะมีความปลอดภัยจากผู้กระทำาผิดแน่นอน
                     หรือถ้าหากเลือกโทษจำาคุกตลอดชีวิต  จะต้องถูกจำาคุกตลอดชีวิตจนกระทั่งสังคมมีความปลอดภัย

                     ฉะนั้น โทษจำาคุกตลอดชีวิตที่นำาเข้ามาเพื่อแก้ไข หรือตัดผู้กระทำาความผิดออกจากสังคม จะต้องทำา

                     อย่างเข้มงวด และทางราชทัณฑ์หรือศาลน่าจะมีบทบาทในการพิจารณาว่าคน ๆ นั้นควรจะได้รับ
                     การปล่อยตัวหรือไม่  โดยจะต้องมีการลงโทษจริง  คือ  ตราบใดที่สังคมยังไม่มีความปลอดภัย
                     จะไม่ปล่อยออกจากคุกหากไม่แน่ใจว่าจะแก้ไขพฤติกรรมได้จริง  ถ้าแก้ไขในจุดนี้ได้สังคมไทยก็คง

                     จะต้องตอบปัญหาได้ว่าโทษประหารชีวิตไม่มีความจำาเป็น จะใช้โทษจำาคุกตลอดชีวิตแทน เพื่อสร้าง

                     ความปลอดภัยให้กับสังคม
                             นอกจากนี้ วัตถุประสงค์ของโทษประหารชีวิตมิได้เป็นการข่มขู่ผู้กระทำาความผิด แต่เป็น
                     การข่มขู่คนทั่วไป ซึ่งมีมาตรฐานทางศีลธรรม เพราะโดยปกติคนจะคิดอะไร จะทำาอะไรในสิ่งผิด ๆ ก็จะ

                     ชั่งใจดูก่อนว่าคุ้มหรือไม่ ถ้าเป็นการข่มขู่ในลักษณะนี้โทษประหารชีวิตก็คงจะยับยั้งอาชญากรรมได้

                             ส่วนข้อโต้แย้งประกอบด้วย เหตุผลในกระบวนการยุติธรรม หากการใช้โทษประหารชีวิต
                     เกิดความผิดพลาดในเรื่องพยานหลักฐาน หรือการที่มีพยานเท็จแล้วได้มีการลงโทษประหารชีวิตไป
                     จะทำาให้เกิดปัญหาว่าจะคืนชีวิตไม่ได้ ซึ่งไม่เหมือนกับการลงโทษจำาคุก หรือการลงโทษปรับ ซึ่งสามารถ

                     ชดใช้คืนได้  ซึ่งเป็นจุดอ่อนของกระบวนการยุติธรรมที่อาจผิดพลาด  อันนี้เป็นข้อโต้แย้งในเรื่อง

                     โทษประหารชีวิต
                             ประเด็นที่สอง เป็นเรื่องการข่มขู่ ซึ่งการข่มขู่จริงหรือไม่ มีการวิจัยมากมาย ก็ขึ้นกับว่า
                     ผลกระทบเป็นอย่างไร  แต่สิ่งที่ไม่ได้คิดก็คือว่า  บุคคลซึ่งกลัวการลงโทษประหารชีวิตแล้วไม่ทำา

                     ความผิด เราไม่มีสถิติ มีแต่เพียงบุคคลที่ไม่กลัวการลงโทษประหารแล้วกระทำาความผิด จึงทำาให้เห็นว่า

                     โทษประหารชีวิตไม่มีประสิทธิภาพในการข่มขู่ อย่างไรก็ตาม เห็นว่าสังคมไทยไม่ได้ใช้โทษประหารชีวิต
                     ในแง่ของการเป็นโทษหลัก พอได้รับพระราชทานอภัยโทษก็เปลี่ยนเป็นจำาคุกตลอดชีวิต ดังนั้น ในแง่






                                                                       โทษประหารชีวิตในประเทศไทย 133
   141   142   143   144   145   146   147   148   149   150   151