Page 145 - รายงานการศึกษาเรื่องโทษประหารชีวิตในประเทศไทย
P. 145

คือ ถ้าบุคคลใดกระทำาชั่วจะต้องตกนรก บุคคลใดกระทำาดีก็ไปสวรรค์ คำาว่า ตกนรก คือ จะต้อง
                  ถูกยมบาลฆ่าแล้วฆ่าอีก

                           การลงโทษประหารชีวิตนั้น เป็นการทำาลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้กระทำาผิดหรือไม่

                  ในประเด็นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์นั้น  เมื่ออาชญากรในขณะที่ฆ่าคนตายได้คำานึงถึงศักดิ์ศรี
                  ความเป็นมนุษย์ของคนอื่นหรือไม่  เพราะเขาได้ทำาลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนอื่นด้วยการ
                  ฆ่าเสียแล้ว  แต่พอถึงเขาเองกลับยกศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เพื่อจะไม่ถูกฆ่าบ้าง  อย่างนี้เป็นธรรม

                  หรือไม่ ถ้าผู้กระทำาผิดได้คำานึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์แล้ว จะต้องไม่ไปฆ่าคนอื่น เพราะถ้าเขา

                  ฆ่าคนอื่นเมื่อไรเท่ากับเขาทำาลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนอื่น
                           การลงโทษประหารชีวิตนั้นแท้ที่จริงแล้วเป็นทฤษฎีของการป้องปราม  ซึ่งไม่หวังผล
                  กับการประหารชีวิต แต่การมีโทษประหารชีวิตเป็นพฤติการณ์เพื่อเป็นการป้องปราม เพื่อมิให้คนทั่วไป

                  กระทำาผิด  คนดี  ๆ  จะกลัวโทษประหารชีวิตก็ไม่กล้ากระทำาผิด  ผู้กระทำาผิดจริงคิดแล้วโดยเฉลี่ย

                  ร้อยละ ๑ ของประชาชนทั่วประเทศเท่านั้น ซึ่งคือประโยชน์ที่แท้จริงของการมีโทษประหารชีวิต
                           ปัจจุบันยังมีแนวคิดทฤษฎีที่ใช้กันมาก คือ ทฤษฎีการลงโทษเพื่อให้เหมาะสมกับความผิด
                  ที่ได้กระทำา  ทุกวันนี้ผู้พิพากษาใช้ทฤษฎีนี้  เพราะฉะนั้นการลงโทษประหารชีวิตของผู้พิพากษา

                  ท่านคิดแล้วคิดอีกว่าจะลงโทษประหารชีวิตหรือไม่ ศาลจะลงโทษประหารชีวิตก็ต่อเมื่อเหมาะสมแล้ว

                  กับความผิดที่ผู้กระทำาได้ทำาแล้วเท่านั้น เป็นการฆ่าโดยเจตนา ไตร่ตรองไว้ก่อน การฆ่าซึ่งโหดเหี้ยม
                  ทารุณ  การลงโทษประหารชีวิตจึงน้อยมาก  เมื่อเทียบกับการกระทำาความผิดที่เกิดขึ้นตามที่ศาล
                  ได้พิพากษา  ถ้าจะยกเลิกโทษประหารชีวิตก็ต้องมีการลงโทษจำาคุกตลอดชีวิต  แต่ต้องมีเงื่อนไข

                  เช่น  ถ้าลงโทษประหารชีวิตเพราะเขาได้ฆ่าคนอุกฉกรรจ์  ผู้กระทำาความผิดจะต้องถูกจำาคุก

                  ตลอดชีวิตจริง ๆ ที่สหรัฐอเมริกาคดีอุกฉกรรจ์จะต้องถูกจำาคุกไม่น้อยกว่า ๓๐ ปี เมื่อพ้น ๓๐ ปี
                  แล้ว จึงจะมาพิจารณาถึงเหตุบรรเทาโทษว่าจะให้ออกจากคุกหรือไม่ ในทางกลับกันจะลงโทษประหาร
                  ชีวิตก็ต้องมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น

                            ๑. ใช้กับความผิดอุกฉกรรจ์อย่างแท้จริง  ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาถึงความเหมาะสม

                               ต่อไป
                            ๒. ถ้าเป็นฆาตกรติดนิสัยฆ่าแล้วฆ่าอีกไม่หลาบจำา ก็ต้องพิจารณาว่า คนคนนี้ควรประหาร
                               ชีวิตหรือไม่ ชีวิตคนมีค่าแต่ไม่มีสิทธิ์ฆ่าคนอื่น

                           โทษประหารชีวิตจะมีหรือไม่ก็ตาม สิ่งที่จะต้องแก้ไข คือ

                           ต้องใช้ทฤษฎีความรู้การลงโทษทางอาชญาวิทยา ซึ่งคิดว่ามีอยู่ทั้งหมด ๖ ทฤษฎี ได้แก่
                  ทฤษฎีการลงโทษเพื่อป้องปราม  ทฤษฎีการลงโทษเพื่อชดเชยความเสียหาย  ทฤษฎีการลงโทษ
                  เพื่อแก้แค้น  ทฤษฎีการลงโทษเพื่อตัดโอกาสการกระทำาความผิดอีก  ทฤษฎีการลงโทษเพื่อฟื้นฟู

                  การกระทำาความผิด  และสำาคัญที่สุดซึ่งตอนนี้นิยมที่สุดในโลก  คือ  ทฤษฎีการลงโทษเพื่อให้

                  เหมาะสมกับความผิดที่ได้กระทำา  ต้องมีการวิจัยรูปแบบความผิดและการลงโทษที่จะเหมาะสม
                  กับความผิดใด  ถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการวิจัยอย่างรีบด่วนว่ามีความผิดอย่างนี้โทษที่เหมาะสมกับ






      132      คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
   140   141   142   143   144   145   146   147   148   149   150