Page 138 - ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงครามและข้อเสนอในการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
P. 138
ข้อเสนอแนะจากที่ประชุม
นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ
แรงงานข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ เสนอข้อคิดเห็นว่า “การที่พระราชบัญญัติ
คนเข้าเมืองสันนิษฐานว่า คนไม่มีหลักฐานมีความผิดเป็นการขัดกับหลักกฎหมายอาญาทั่วไป
และรัฐธรรมนูญปี ๒๕๕๐ นอกจากนี้ในรัฐธรรมนูญปี ๒๕๕๐ มาตรา ๔๐ ยังได้กล่าวถึงสิทธิใน
กระบวนการยุติธรรมที่ทุกคนต้องได้รับแต่ในเรื่องคนเข้าเมืองกลับไม่ได้รับ เราจะพบว่าคนเข้าเมือง
ผิดกฎหมายไม่ได้รับสิทธิทั้ง ๕ ประการ ต่อไปนี้
(๑) สิทธิในการได้รับการประกันตัว
(๒) สิทธิในการมีทนายความเพื่อแก้ต่าง
(๓) เจ้าพนักงานต้องตรวจสอบข้อมูลเอกสารอย่างเพียงพอและโดยไม่มีข้อแม้
(๔) มีการแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิให้แก่ผู้ต้องหา
(๕) สิทธิในการที่จะมีล่าม
นอกจากนี้ มาตรา ๕๔ เป็นอีกมาตราหนึ่งที่สำาคัญซึ่งเป็นเรื่องการดูแลคนที่ได้รับการ
ลงโทษตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองแล้ว เพียงแต่รอการส่งกลับ มาตรา ๕๔ ตามพระราช
บัญญัติคนเข้าเมือง ระบุว่า “คนต่างชาติผู้ใดเข้ามาหรืออยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
หรือการอนุญาตนั้นสิ้นสุดหรือถูกเพิกถอนแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่จะส่งตัวคนต่างด้าวนั้นกลับ
ออกนอกราชอาณาจักรก็ได้” มาตรานี้มีขึ้นเป็นการยกเว้นหลักทั่วไปที่ผู้กระทำาผิดจะได้รับการส่ง
กลับก็ต่อเมื่อมีคำาพิพากษาของศาลเท่านั้น ทั้งนี้ กลุ่มที่เจ้าหน้าที่จะสามารถส่งกลับเองได้ต้องเป็น
กลุ่มแรงงานต่างด้าว หรือคนต่างด้าวสามสัญชาติ คือ พม่า กัมพูชา ลาว และต้องเป็นกรณีที่เจ้าตัว
รับสารภาพเท่านั้น แต่ในข้อเท็จจริงพบว่า ไม่มีการถามความสมัครใจหรือการรับสารภาพ แต่ได้มี
การส่งคนกลับเป็นจำานวนมาก
นอกจากนี้ ในมาตรา ๕๔ วรรค ๓ กรณีที่มีคำาสั่งให้ส่งตัวคนต่างด้าวกลับออกไป แต่อยู่
ระหว่างรอการส่งกลับ พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำานาจอนุญาตให้พักในที่ใดก็ได้โดยมีประกันหรือ
หลักประกัน หรือทั้งประกันและหลักประกันก็ได้ แต่ปรากฏว่าข้อนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ให้มีการประกัน
เพื่อให้คนเหล่านี้ออกไปอยู่ในสถานที่อื่นๆ นอกจากสถานที่ต้องกักได้ จึงมีข้อเสนอในการจัดการ
เรื่องเหล่านี้ต่อรัฐบาลไทย ดังนี้
๑. รัฐต้องดูแลและให้สถานะผู้ลี้ภัย
รัฐต้องรับรองออกเอกสารยืนยันการเป็นคนให้คนเหล่านี้ทุกคน ซึ่งปัจจุบันคนเหล่านี้
ยังไม่ได้รับเอกสารรับรองจากรัฐในการเป็นบุคคลตามกฎหมาย ทั้งที่มีหลักกฎหมายระหว่างประเทศ
และกฎหมายภายในประเทศรับรองเรื่องนี้ไว้ชัดเจน ดังนี้
(๑) ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ข้อ ๖ “ทุกๆ คนมีสิทธิจะได้รับการยอมรับ
ว่าเป็นบุคคลในกฎหมายไม่ว่า ณ ที่ใด”
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงคราม และข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒