Page 119 - ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงครามและข้อเสนอในการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
P. 119

(๔)  กรณีผู้สูงอายุได้คนละ ๗.๒ ล้านวอน และคนที่ขยันทำางานได้ ๒๔.๔ ล้านวอน  เพื่อกระตุ้น
                                ให้คนขยันทำางาน

                            (๕)  ในด้านการประกอบอาชีพ รัฐบาลเกาหลีใต้ให้เงินอุดหนุนบริษัทที่ยอมรับผู้ลี้ภัยเกาหลีเหนือ

                                ในอัตราส่วน ๕๐/๕๐ ในระยะเวลา ๓ ปี
                            (๖)  การศึกษาสนับสนุนถึงระดับอุดมศึกษา


                            ที่ประชุมได้ปรึกษาหารือและเห็นว่า  สำาหรับสถานการณ์ผู้ลี้ภัยในประเทศไทยนั้นมีความแตกต่าง
                     จากกรณีของประเทศเกาหลีใต้และแคนาดา เนื่องจากประเทศไทยยินยอมให้ผู้ลี้ภัยอยู่ในประเทศเป็นการ
                     ชั่วคราวเท่านั้น และการดูแลผู้ลี้ภัยในปัจจุบันเป็นการปฏิบัติตามมติของอนุกรรมการสภาความมั่นคง

                     แห่งชาติ  ซึ่งเป็นการใช้อำานาจบริหารมิใช่การใช้อำานาจนิติบัญญัติ จึงสมควรที่จะแก้ไขพระราชบัญญัติ

                     คนเข้าเมืองในส่วนที่ยังไม่สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องการพิจารณาสถานภาพ
                     ผู้ลี้ภัย  ในหมวดที่ได้รับอนุญาตได้รับอนุญาตให้อยู่ชั่วคราว เพราะเมื่อพิจารณาปัญหาในปัจจุบันพบว่า
                     ผู้ลี้ภัยที่มีปัญหา ก็คือ กลุ่มที่เข้ามาโดยส่วนใหญ่ก็เข้ามาโดยถูกต้อง  มี passport  มี visa tourist แต่ว่า

                     เมื่อมาอยู่จนเกินกำาหนดวีซ่า ๓๐ ก็เลยกลายเป็น over stay จึงถูกจับ  ถ้าหากมีการกำาหนดประเภทวีซ่า

                     อีกประเภทหนึ่ง ซึ่งผู้ลี้ภัยจะสามารถจะมาขอเข้ากลุ่มนี้ได้ และสามารถอยู่ในประเทศไทยได้ชั่วคราว
                     โดยอาจเป็นระบบที่กำาหนดให้มารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ ก็จะสามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด
                            ในอีกประเด็นหนึ่งที่มีปัญหาในปัจจุบัน คือ อำานาจในการพิจารณาผู้ลี้ภัย  ซึ่งประเทศไทยให้

                     UNHCR ดูแลทั้งหมด  ซึ่งใช้เวลานานและทำาให้ประเทศไทยไม่สามารถกำาหนดระยะเวลาที่แน่นอนที่ผู้ลี้ภัย

                     เหล่านี้จะอยู่ในประเทศไทย  ที่จริงแล้ว การพิจารณาสถานภาพผู้ลี้ภัยมีอยู่ด้วยกัน ๓ แบบ คือ  การ
                     พิจารณาที่ UNHCR ทำาเองทั้งหมด  การพิจารณาสถานภาพผู้ลี้ภัยที่รัฐเข้ามาทำาเอง และค่อยให้ UNHCR
                     รับรอง ซึ่งหลายประเทศได้เข้ามาดำาเนินการเอง และแบบที่รัฐทำาร่วมกับ UNHCR  โดยอาจจะเป็น

                     กระทรวงยุติธรรมหรือตรวจคนเข้าเมืองเข้าดำาเนินการ  และหากประเทศไทยจะเป็นผู้ดำาเนินการเอง

                     หรือเข้ามามีส่วนร่วมในการดำาเนินงานของ UNHCR จะดีกว่า  เนื่องจากปัจจุบันกระบวนการดังกล่าว
                     ใช้เวลานานและไม่มีกำาหนดเวลาที่แน่นอน
                            พ.ต.ท.ดร.พงษ์นคร  นครสันติภาพ ได้เสนอต่อที่ประชุมว่า  ควรกำาหนดประเภทวีซ่าใหม่ให้กับ

                     ผู้ลี้ภัย เนื่องจากเป็นวิธีที่สามารถทำาได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ  โดยสามารถออกเป็นกฎหมายกระทรวง

                     หลังจากปรึกษาหารือกัน ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบการเสนอกำาหนดประเภทวีซ่าใหม่ให้แก่ผู้ลี้ภัย เพื่อให้
                     สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ถูกต้องตามกฎหมาย และสนับสนุนให้ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญา
                     ว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย ๑๙๕๑  เนื่องจากเป็นเครื่องมือสำาคัญที่ให้ความคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของผู้ลี้ภัย

                     และทำาให้ประเทศไทยมีหลักเกณฑ์ที่แน่นอนในการบริหารจัดการผู้ลี้ภัย












                                                                                                          


                                      ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการคุ้มครองสิทธิของผู้อพยพหนีภัยสงคราม  และข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ. คนเข้าเมือง  พ.ศ. ๒๕๒๒
   114   115   116   117   118   119   120   121   122   123   124