Page 679 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 679
ขาดระบบการจัดสรรงาน ใครเก่งมีทักษะดีก็ถูกอนุกรรมการเรียกตัวมากกว่า
คนอื่น ส่วนคนที่ไม่เก่งก็ไม่มีงาน
การแบ่งงานแต่ละกลุ่มงานไม่มีความชัดเจน
แนวคิดการแก้ไขปัญหา
1. ส านักงานควรจัดท าหลักปฏิบัติ (คู่มือการท างาน) ของคณะอนุกรรมการ ที่มี
มาตรฐานโดยก าหนดกรอบการท างาน ขอบเขตหน้าที่ และอ านาจหน้าที่ที่
ชัดเจนของอนุกรรมการ เช่นการตรวจสอบข้อเท็จจริง การให้ค าปรึกษา
เจ้าหน้าที่ ฯลฯ
8.1.4 การท างานมีขั้นตอนมากเกินไป
ขั้นตอนการท างานเป็นโครงสร้างส าคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพของการตรวจสอบทั้ง
ในมิติของความรวดเร็วในการท างาน และความถูกต้องน่าเชื่อถือของผลการตรวจสอบ
ั
ซึ่งผลการศึกษาวิจัยเชิงส ารวจพบว่า กลุ่มเจ้าหน้าที่ประเมินปญหาดังกล่าวในระดับ
“มาก” ที่ค่าเฉลี่ย 3.60
ขณะที่ผลการศึกษาวิจัยในขั้นตอนที่ 2 ชี้ให้เห็นถึงแนวคิดที่แตกต่างกันใน
ประเด็นของขั้นตอนการท างาน โดยส่วนหนึ่งเห็นพ้องด้วยว่าขั้นตอนการตรวจสอบ
ั
ปจจุบัน โดยเฉพาะรูปแบบการใช้อ านาจเป็นข้อจ ากัดส าคัญที่ส่งผลต่อความล่าช้าใน
กระบวนการตรวจสอบ ดังตัวอย่างความคิดเห็น
เอกสารออกต่างๆ จะต้องผ่านการตรวจสอบของอนุกรรมการ ทั้งที่บางเรื่อง
เจ้าหน้าที่สามารถใช้ดุลยพินิจได้เลย
ประธานอนุกรรมการบางท่าน เข้าถึงยาก มีขั้นตอนเยอะกว่าจะลงนาม
เอกสารได้ ท าให้เรื่องล่าช้า
ั
ปญหาบางเรื่องมีความเร่งด่วน ประธานอนุกรรมการเฉพาะด้านไม่สามารถ
หยิบยกขึ้นมาตรวจสอบได้ทันที ต้องผ่านกระบวนการท าให้เกิดความล่าช้า
ั
ขณะที่แนวคิดบางส่วนเห็นว่า ขั้นตอนปจจุบันเป็นเป็นไปตามหลักกฎหมาย
ั
รัฐธรรมนูญ และมีความเหมาะสมแล้ว แต่ปจจัยส าคัญที่ส่งผลต่อความล่าช้าอยู่ที่
ศักยภาพของบุคลากรมากกว่า โดยระบุเหตุผลประกอบดังนี้
- 560 -

