Page 556 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 556
ให้มีความเหมาะสม มีประสิทธิภาพและทันต่อเหตุการณ์ จะเห็นได้ว่า แม้ผู้ตรวจการแผ่นดินจะได้
ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถเพียงใด หากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องไม่ให้ความร่วมมือ
ั
สนับสนุนแล้ว ก็เป็นการยากที่ภารกิจของผู้ตรวจการแผ่นดินในการแก้ไขปญหาความไม่เป็นธรรม
่
ั
้
และปดเปาทุกข์ร้อนของประชาชนให้บรรเทาเบาบางจะสามารถบรรลุเปาหมายได้สมตาม
เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและความคาดหวังของสาธารณชนได้ เพื่อให้การด าเนินงานดังกล่าว
เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ด าเนินการประสานความร่วมมือกับหน่วยงาน
ของรัฐที่ถูกร้องเรียนบ่อยครั้ง หรือใช้ระยะเวลาในการชี้แจงข้อเท็จจริงและส่งเอกสารหลักฐานที่
เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องเรียนค่อนข้างนาน โดยจัดให้มีการประชุมเพื่อชี้แจง
ั
ให้หน่วยงานเข้าใจและตระหนักถึงความส าคัญของกระบวนการแก้ไขปญหาตามค าร้องเรียน โดย
ั
ชี้ให้เห็นว่าค าร้องเรียนที่เกิดขึ้นเป็นเสียงสะท้อนจากประชาชนผู้รับบริการที่หน่วยงานพึงรับฟง
และหากพบว่า มีความไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติของกฎหมาย ความไม่เหมาะสม รวมถึง
ข้อบกพร่องอื่นใดในกระบวนงานหรือวิธีปฏิบัติ ก็จะได้เสนอแนะให้หน่วยงานน าไปพิจารณา
ทบทวนเพื่อแก้ไขปรับปรุงระบบงานและวิธีการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายและเป็นธรรมต่อ
ประชาชน นอกจากนี้ ยังมีการด าเนินการโดยใช้ช่องทางอื่นในการแสวงหาข้อเท็จจริงตามค า
ร้องเรียนควบคู่กันไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการประสานอย่างไม่เป็นทางการไปยังเจ้าหน้าที่ที่
ั
เกี่ยวข้อง การออกส ารวจพื้นที่ที่พิพาท หรือการรับฟงถ้อยค าของประชาชนผู้เดือดร้อน เป็นต้น
แต่ในกรณีที่หน่วยงานยังคงเพิกเฉยไม่ให้ความร่วมมือกับผู้ตรวจการแผ่นดินในการชี้แจง
ข้อเท็จจริงหรือการส่งเอกสารหลักฐานที่จ าเป็นต่อการพิจารณา ผู้ตรวจการแผ่นดินอาจพิจารณา
ใช้มาตรการบังคับทางกฎหมาย ตามที่บทบัญญัติมาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัติประกอบ
ั
รัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2552 ได้ก าหนดบทลงโทษไว้ เพื่อให้การแก้ไขปญหา
ความทุกข์ร้อนของประชาชนเกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป นอกจากการประสานท าความเข้าใจ
กับหน่วยงานของรัฐที่ถูกร้องเรียนแล้วผู้ตรวจการแผ่นดินยังมีนโยบายในการสร้างความร่วมมือ
ระหว่างองค์กรตามรัฐธรรมนูญขึ้น โดยจัดให้มีการประชุมร่วมกัน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ทาง
วิชาการ ทั้งในด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน การสร้างเสริมธรรมาภิบาลในภาครัฐ การพัฒนา
ประชาธิปไตย และการตรวจสอบการใช้อ านาจรัฐ ซึ่งล้วนเป็นภารกิจตามเจตนารมณ์ของ
ั
รัฐธรรมนูญ อีกทั้งยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างกันเพื่อร่วมแก้ปญหาให้แก่ประชาชน
และสังคมโดยรวม และเพื่อประสานความร่วมมือในการปฏิบัติงานตามภารกิจของแต่ละองค์กรให้
เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป
- 450 -

