Page 502 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 502
(3) ส่งเสริมสิทธิมนุษยชน รวมถึงประชาธิปไตย และการพัฒนา ซึ่ง
น าไปสู่สันติภาพที่ถาวร
(4) ประสานกลไกและโครงการด้านสิทธิมนุษยชนต่างๆ ภายใต้ระบบ
สหประชาชาติ
-คณะมนตรีฯ เป็นองค์กรของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ คณะมนตรีฯ
ท างานใกล้ชิดกับส านักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนซึ่งส านักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนนี้
เป็นองค์กรที่ให้การสนับสนุนองค์กรต่างๆ ในด้านที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน โดยสมัชชาใหญ่ก่อตั้ง
คณะมนตรีฯ โดยรับข้อมติ (A/RES/60/251) เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2549
-ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนมีหน้าที่บริหารส านักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิ
มนุษยชนซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในการสนับสนุนกลไกต่างๆ ด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ
รวมถึงการสนับสนุนด้านวิชาการและความร่วมมือเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนทั้งในระดับประเทศ และ
ระดับภูมิภาค
-ส านักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนได้มีบทบาทอย่างใกล้ชิดกับการ
ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในระดับประเทศและระดับภูมิภาค เช่น การส่งเสริมให้มีกลไก
ความร่วมมือด้านสิทธิมนุษยชนในภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิก นอกจากนี้ ยังมีส านักงานหรือผู้แทน
ในประเทศต่างๆ อาทิ จอร์เจีย อัฟกานิสถาน กัมพูชา อาเซอร์ไบจัน โคลัมเบีย อดีตยูโกสลาเวีย
เป็นต้น เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับอาณัติเฉพาะในประเทศนั้นๆ เช่น การช่วยพัฒนา
กระบวนการยุติธรรม การให้การศึกษาเรื่องสิทธิมนุษยชน การติดตามตรวจสอบสถานการณ์การ
ละเมิดสิทธิมนุษยชน
-ส านักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (ตั้งอยู่ ณ นคร
่
เจนีวา) ท าหน้าที่เป็นฝายเลขานุการของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน และการประชุมคณะมนตรีสิทธิ
มนุษยชน สมัยที่ 1 มีขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2549
4) กระบวนการยื่นเรื่องร้องทุกข์
จุดแข็ง/จุดเด่น
ั
-กระบวนการรับข้อร้องเรียนของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนในปจจุบันเป็น
กลไกที่ตกทอดมาจาก “กระบวนการ 1503” เดิมของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นผลมา
จากข้อมติ ESOSOC ที่ 1503 ลงวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ.2513 โดยกลไกดังกล่าวตั้งขึ้นมาเพื่อ
ั
เป็นช่องทางให้ปจเจกบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหยื่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน
อย่างรุนแรงและเป็นระบบ สามารถยื่นข้อร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรมและความช่วยเหลือได้
- 396 -

