Page 498 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 498
สหประชาชาติ คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนมีจุดแข็งคือการมีสถานะที่สูงขึ้นโดยในอนาคตอาจมี
ภารกิจส าคัญเทียบเท่าคณะมนตรีความมั่นคง
-การปฏิรูปกลไกสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติเป็นความพยายามของ
ประเทศสมาชิกสหประชาชาติในการพัฒนากลไกสิทธิมนุษยชนเพื่อเป็นกรอบการด าเนินการ
ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในระดับต่าง ๆ และตอบสนองความท้าทายใหม่ ๆ ด้านสิทธิ
มนุษยชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
-คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนมีวัตถุประสงค์หลัก 10 ประการ ได้แก่
(1) ส่งเสริมสิทธิมนุษยชนศึกษา การเรียนรู้ด้านสิทธิมนุษยชนและ
ให้บริการค าปรึกษา ความช่วยเหลือด้านเทคนิคและเสริมสร้างศักยภาพโดยการหารือและได้รับ
ความเห็นชอบจากประเทศสมาชิกสหประชาชาติที่เกี่ยวข้อง
(2) เป็นเวทีเพื่อการหารือในประเด็นเฉพาะด้านสิทธิมนุษยชน
(3) ให้ข้อเสนอแนะต่อสมัชชาสหประชาชาติเพื่อส่งเสริมพัฒนาการของ
การจัดท ามาตรฐานหรือกฎหมายระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน
(4) ส่งเสริมการอนุวัติพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของรัฐและติดตามการ
อนุวัติพันธกรณีการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เป็นผลจากการประชุมสหประชาชาติและ
การประชุมสุดยอดต่างๆ
(5) จัดท าการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชนและการอนุวัติพันธกรณี
ด้านสิทธิมนุษยชนของรัฐภายใต้กลไก Universal Periodic Review (UPR) บนพื้นฐานข้อมูลที่
เป็นกลางและน่าเชื่อถือ
้
(6) ปองกันไม่ให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนและตอบสนองสถานการณ์
สิทธิมนุษยชนที่ฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที
(7) ทดแทนบทบาทและความรับผิดชอบของคณะกรรมาธิการสิทธิ
มนุษยชนที่เกี่ยวกับภารกิจของส านักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (Office
of the United Nations High Commissioner for Human Rights – OHCHR)
(8) ด าเนินภารกิจด้านสิทธิมนุษยชนโดยร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับรัฐบาล
องค์กรระดับภูมิภาค สถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และภาคประชาสังคม
(9) ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
่
ด าเนินภารกิจด้านสิทธิมนุษยชนโดยร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับทุกฝายที่เกี่ยวข้อง
(10) น าเสนอรายงานประจ าปีต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ
- 392 -

