Page 495 - รายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินศักยภาพและพัฒนาระบบงานและกระบวนการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตามมาตรา 257 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
P. 495
(9.2) ปัญหาอุปสรรค
-บุคคลและหน่วยงานต่างๆ ยังคงละเลยต่อการด าเนินการตามมาตรการ
ั
ในการแก้ไขปญหา จากรายงานผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน แม้กสม. จะได้
ั
พยายามประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปญหา ทั้งทางหนังสือ
ั
และการประชุมหารือร่วมกัน บุคคลหรือหน่วยงานมิได้ด าเนินการแก้ไขปญหา หรือด าเนินการ
แล้วแต่ยังไม่แล้วเสร็จ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร รายงานผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิ
มนุษยชนได้แจ้งไปยังผู้เกี่ยวข้อง ทั้งที่เป็นบุคคลหรือหน่วยงานที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจหรือ
ั
ตอบสนองที่จะด าเนินการตามมาตรการในการแก้ไขปญหาที่ก าหนด
-ตามกฎหมายก าหนดให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จัดท า
รายงานการตรวจสอบกรณีมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือมีการกระท าที่ไม่เป็นธรรม และเสนอ
มาตรการแก้ไขต่อบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมก าหนดระยะเวลา ถ้าไม่มีการแก้ไขให้
รายงานต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อสั่งการให้มีการด าเนินการแก้ไขภายในหกสิบวัน และถ้ายังไม่มีการ
ด าเนินการหรือสั่งการให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติรายงานต่อรัฐสภาเพื่อด าเนินการ
ต่อไป อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนที่นายกรัฐมนตรีสั่งการและรัฐสภาด าเนินการตามที่กฎหมายบัญญัติ
ยังไม่ปรากฏเป็นรูปธรรม
10) กระบวนการผลักดันปรับปรุงกฎหมาย
(10.1) จุดแข็ง/จุดเด่น
-กสม.มีบทบาทหน้าที่ในการเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการ
ปรับปรุงกฎหมายต่อรัฐบาล และต่อรัฐสภา เพื่อส่งเสริมคุ้มครองสิทธิมนุษยชนได้
(10.2) ปัญหาอุปสรรค
ั
-ปญหาในการเสนอรัฐบาล รัฐมนตรี หรือต่อรัฐสภาในการจัดท า/
ปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบที่อยู่ในอ านาจ มีข้อจ ากัดในการด าเนินการ เนื่องจากคณะรัฐมนตรี
สมาชิกรัฐสภา และบุคคลแวดล้อมมักจะมีกลุ่มแนวคิดทางการเมืองของตนเอง ซึ่งอาจมีจุดยืน
ความคิดแตกต่างไปจากข้อเสนอมุมมองความเห็นของกสม.
่
้
-ฝายการเมืองดังกล่าวมักจะมีพลังอ านาจที่สนับสนุนปกปองตนเอง ยาก
่
ที่จะผลักดันหรือโน้มน้าวให้ฝายการเมืองสนับสนุนข้อกฎหมายที่เสนอโดยกสม.หากกฎหมายนั้น
่
่
ไม่สอดคล้องกับแนวทางของฝายการเมืองนั้น หรือขัดแย้งกับผลประโยชน์ของกลุ่มเครือข่ายฝาย
การเมืองนั้น
- 389 -

