Page 41 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 41
่
โดยนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2439 เป็นต้นมา รัฐบาลสยามได้สถาปนากรมปาไม้ขึ้นเพื่อทําหน้าที่ควบคุม
่
การทําไม้โดยเฉพาะการสัมปทานไม้สักในเขตภาคเหนือของประเทศไทยการสถาปนากรมปาไม้ครั้งนั้น
่
นับได้ว่าเป็นการประกาศรวมศูนย์อํานาจในการจัดการทรัพยากรปาไม้ของประเทศไทยซึ่งก่อนหน้านั้น
่
พื้นที่ปาไม้ในเขตภาคเหนืออยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าผู้ครองนครซึ่งมีระบบการจัดการที่แตกต่าง
่
กันไปในช่วงเริ่มต้นของการวางระบบรวมศูนย์อํานาจการจัดการปา รัฐบาลสยามได้ว่าจ้างนายโฮร์เบิร์ต
่
เสลด (Horbert Slade) นักปาไม้ชาวอังกฤษให้มาทําหน้าที่ให้คําปรึกษาและวางกฎเกณฑ์การบริหาร
่
่
่
จัดการปาไม้ ต่อมานายเสลดได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้ากรมปาไม้ (อธิบดีกรมปาไม้) คนแรกใน
่
่
ประวัติศาสตร์การปาไม้เมืองไทยทั้งนี้การบริหารจัดการทรัพยากรปาไม้ในสมัยนั้นเน้นการทําไม้สัก
่
และต่อมาเป็นไม้กระยาเลยจากปาธรรมชาติโดยผู้รับสัมปทานส่วนใหญ่มักเป็นบริษัทต่างชาติซึ่งส่วนใหญ่
เป็นบริษัทของอังกฤษ เช่น บริษัทบอมเบย์ - เบอร์มาร์โดยรัฐบาลสยามได้รายได้จากการสัมปทานโดย
่
่
เก็บค่าภาคหลวงการทําไม้ในเขตสัมปทาน ประเทศไทยเปิดให้มีการสัมปทานปาไม้ในเขตปาธรรมชาติ
่
นับตั้งแต่นั้นเรื่อยมา แต่ได้ประกาศปิดสัมปทานปาไม้ทั่วประเทศอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2532
่
หลักเกิดภัยพิบัตินํ้าท่วมดินถล่มที่พิปูน นครศรีธรรมราช ซึ่งนับรวมเวลาในการทําไม้ในปาธรรมชาติ
่
เกือบหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมารัฐใช้อํานาจผ่านกรมปาไม้โดยมีความพยายามอย่างต่อเนื่องในการ
่
่
่
ใช้อํานาจประกาศให้พื้นที่ปาเป็นพื้นที่ปาไม้ของรัฐและออกกฎหมายปาไม้เพื่ออํานวยการให้รัฐ
่
มีอํานาจและหน้าที่ในการจัดสรรการใช้ประโยชน์ทรัพยากรในพื้นที่ปาไม้แต่เพียงผู้เดียว ดังนั้น
่
เทคนิคของรัฐในการควบคุมทรัพยากรปาไม้ก็คือการกําหนดพื้นที่ให้เป็นของรัฐและออกกฎหมาย
่
เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสําหรับเจ้าหน้าที่รัฐในการจัดสรรการใช้ประโยชน์ทรัพยากรปาไม้ในปี พ.ศ. 2507
่
่
กรมปาไม้ออกกฎหมายปาสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 นัยสําคัญของกฎหมายฉบับนี้คือการกําหนดนิยาม
่
“ที่ดินปาไม้” ซึ่งกฎหมายฉบับนี้นิยามว่า “ที่ดินที่ยังไม่มีบุคคลใดครอบครองเป็นเจ้าของตามประมวล
กฎหมายที่ดิน” หมายความว่าที่ดินทั้งที่มีต้นไม้ปกคลุมและไม่มีต้นไม้ปกคลุมแต่ยังไม่มีการออกเอกสารสิทธิ์
่
่
ที่ดินโดยกรมที่ดินถือเป็นที่ดินปาไม้และจัดเป็นพื้นที่ปาสงวนแห่งชาติ
่
่
นอกจากนี้กรมปาไม้ออกประกาศพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ปา พ.ศ. 2503 ทั้งนี้
่
่
่
ในเชิงการควบคุมพื้นที่เพื่ออนุรักษ์สัตว์ปากรมปาไม้ได้ประกาศเขตรักษาพันธุ์สัตว์ปาขึ้นทั่วประเทศ
่
ในระยะเวลาใกล้เคียงกันกรมปาไม้ออกประกาศพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 และมีการ
่
ประกาศอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย และประกาศปาสลัก
่
พระจังหวัดกาญจนบุรีเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ปาแห่งแรกในประเทศไทยเช่นเดียวกัน แต่ดูเหมือนว่า
่
่
ระบบการจัดการปาแบบรวมศูนย์อํานาจโดยมีกรมปาไม้ทําหน้าที่หลักไม่สอดคล้องกับระบบสังคม
่
การเมืองและระบบนิเวศธรรมชาติในสังคมไทยและไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์เดิมที่จะเพิ่มพื้นที่ปาไม้
่
่
ในทางตรงกันข้ามพื้นที่ปาไม้ในประเทศไทยกลับลดลงอย่างต่อเนื่องโดยพื้นที่ปาได้ลดลงจากประมาณ
ร้อยละ 43 ของพื้นที่ประเทศในปี พ.ศ. 2516 เหลือเพียงประมาณร้อยละ 25 ในช่วงทศวรรษ 2540
่
(กรมปาไม้, 2552)
่
“ชาวบ้าน” และ “ระบบเกษตรกรรมในปา” มักถูกตําหนิจากเจ้าหน้าที่และสังคมว่าเป็นสาเหตุหลัก
่
ั
ของปญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรปาไม้รัฐมักมองว่าชาวบ้านและระบบเกษตรกรรมดังกล่าว
3‐12