Page 387 - รายงานผลการศึกษาวิจัย ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยเพื่อการปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 387
3. การจัดให้เช่า ให้ดําเนินการได้โดยไม่ต้องให้ส่วนราชการผู้ครอบครองใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุให้
ความยินยอมหรือส่งคืนก่อน และสามารถดําเนินการให้เช่าได้แม้ว่าการให้เช่านั้นจะไม่เป็นไปตาม
ข้อกําหนดในการใช้ประโยชน์ในที่ดินตามกฎหมายผังเมือง ทั้งนี้ เมื่อจัดให้เช่าแล้ว ให้แจ้งกรมธนารักษ์
เพื่อแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบต่อไป
4. ในการพิสูจน์สิทธิตามระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี หากมิใช่ที่ราชพัสดุให้กันพื้นที่นั้นออก
เพื่อให้ราษฎรนําไปออกเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายที่ดิน ถ้าเป็นที่ราชพัสดุและราษฎรยอมรับ
ให้ดําเนินการจัดให้เช่าตามข้อ 3 หากไม่ยอมรับให้ดําเนินคดี และเมื่อผลคดีสิ้นสุดว่าเป็นที่ราชพัสดุ
ให้บังคับคดีและผลักดันราษฎรรายนั้นออกไปจากที่ดิน
5. ให้สํานักงานธนารักษ์พื้นที่จัดให้เช่ามีกําหนดไม่เกิน 3 ปี โดยให้ดําเนินการตามนัยหนังสือเวียน
กรมธนารักษ์ที่ กค 0314/ว6 ลงวันที่ 15 มกราคม 2547 เมื่อดําเนินการจัดให้เช่าแล้วให้รวบรวมรายชื่อผู้เช่า
แจ้งให้ส่วนราชการที่รับผิดชอบในการลงทะเบียนขอรับสิทธิที่อยู่อาศัยหรือที่ทํากินตามโครงการของ
รัฐบาล เพื่อดําเนินการต่อไป
2.4 โครงการ 1 ล้านไร่ มิติที่ราชพัสดุ
ตามที่รัฐบาลมีนโยบายการขอคืนที่ดินราชพัสดุ 1 ล้านไร่ เพื่อนํามาให้เกษตรกรเช่าทําการเกษตร
โดยการสนับสนุนการปลูกพืชอาหารและพืชทดแทนพลังงานหลอมรวมทุกกลไก 1 ล้านไร่ มิติใหม่ที่ราชพัสดุ
คณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2551 ให้กระทรวงการคลังเร่งดําเนินการตรวจสอบที่ราชพัสดุ
ที่ส่วนราชการครอบครองไว้เกินความจําเป็น หรือที่ไม่ใช้ประโยชน์ นํามาจัดให้เกษตรกรเช่าในอัตรา
ค่าเช่าที่เหมาะสม เพื่อรองรับสถานการณ์วิกฤตอาหารและพลังงาน ซึ่งมีมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
ดังนี้
1. มติคณะรัฐมนตรี 10 มิถุนายน 2551 เรื่อง นโยบายการขอคืนที่ดินราชพัสดุเพื่อนํามาให้
เกษตรกรเช่าทําการเกษตร ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอดังนี้
ให้กระทรวงต่าง ๆ และส่วนราชการสํารวจและส่งคืนที่ราชพัสดุที่ครอบครองไว้เกินความจําเป็นและ
หรือไม่ได้ใช้ประโยชน์ และสามารถทําเกษตรกรรมได้ ให้ได้โดยประมาณไม่ตํ่ากว่า 1 ล้านไร่ ภายใน
3 เดือน นับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ส่งคืนที่ราชพัสดุ และเมื่อได้รับคืนที่ราชพัสดุจากส่วนราชการ/
หน่วยงานต่าง ๆ แล้ว ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน และ
กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกันในการกําหนดแนวทางดําเนินการเพื่อให้มีการนําที่ดินดังกล่าวไปใช้เป็น
พื้นที่เกษตรกรรมได้อย่างเหมาะสม และเป็นรูปธรรม โดยให้กระทรวงการคลังพิจารณากําหนด
เงื่อนไขและอัตราค่าเช่าที่ดินให้เหมาะสม และเป็นธรรมแก่เกษตรกร และให้รับความเห็นของส่วน
ราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้
กระทรวงการคลัง และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณากําหนดนโยบาย กรอบแนวทาง และ
ทิศทางในการดําเนินการ เพื่อให้มีการนําที่ดินไปใช้เป็นพื้นที่เกษตรกรรมได้อย่างเหมาะสม และเป็น
ธรรม โดยให้กําหนดคุณสมบัติและเงื่อนไขเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการ กําหนดจํานวนพื้นที่ที่จะจัด
ให้เกษตรกรแต่ละครอบครัวเช่า กําหนดจํานวนพื้นที่ที่จะเพาะปลูกพืชไร่และพืชทดแทนพลังงาน
ให้สมดุลและเหมาะสม รวมทั้งมีการจัดการที่ดินและแหล่งนํ้าเชิงบูรณาการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อให้เกิดการผลิตการเกษตรที่เหมาะสมกับศักยภาพของดินต่อไป เป็นต้น ไปพิจารณาด้วย
7‐25