Page 97 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยเรื่องการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผู้ติดเชื้อเอชไอวี
P. 97

75


               อยางหวาดระแวง เกรงวาผูอื่นจะรูตลอดเวลา ในหลายกรณีที่ผูติดเชื้อตัดสินใจเปดเผยขอมูลและเขารับการ
               รักษาชาเกินไป ทําใหเสียชีวิตกอนเวลาอันควร

                   -  กรณีที่ผูติดเชื้อเปดเผยตนเองตอคนรอบขางและคนในชุมชนโดยไมสมัครใจ ทําใหตองประสบความ
               ยากลําบากในการดํารงชีวิต ไมเฉพาะตัวผูติดเชื้อ แตรวมถึงครอบครัวและคนใกลชิด ไดรับผลกระทบจากการ
               ถูกตีตราและตั้งขอรังเกียจจากคนในชุมชนดวย
                   -  การเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพ เปนจุดเริ่มตนหนึ่งที่สงผลใหมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนดาน

               อื่นๆ ของผูติดเชื้อ ไมวาจะเปนการถูกบังคับใหเขารับบริการทางการแพทย รวมทั้งตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวี
               การถูกกักตัว กักเพื่อตรวจโรคถูกทอดทิ้งใหโดดเดี่ยว แบงแยกทั้งยังมีการตรวจเลือดการไดรับบริการปรึกษาที่
               ไมรอบดานบีบบังคับการแจงผลเลือดการถูกกดดันใหบอกสถานะของการติดเชื้อ ถูกเลือกปฏิบัติในการเขารับ
               บริการทางการแพทย เชน ถูกจัดใหทําฟนหรือตรวจมะเร็งปากมดลูกเปนลําดับทาย

                   -  ผลกระทบตอเศรษฐกิจในภาพรวม เมื่อสํานักงานหลักประกันสุขภาพแหงชาติ ใหบริการโครงการ
               หลักประกันสุขภาพถวนหนา โดยครอบคลุมยาตานไวรัสสําหรับผูติดเชื้อ เพื่อใหผูติดเชื้อมีสุขภาพแข็งแรงและ
               สามารถดําเนินชีวิตไดตามปกติ แตในทางปฏิบัติ กลับมีการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผูติดเชื้อ ทํา
               ใหกําลังแรงงานสวนหนึ่งหายไปจากระบบอยางนาเสียดาย


                       5.1.3  สาเหตุของการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผูติดเชื้อเอชไอวี
                       จากผลการศึกษาที่ผานมาพบวา สาเหตุหลักของการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผูติดเชื้อมี

               ดังนี้
                   -  การขาดความรูที่ถูกตองของคนในสังคมเรื่องการติดเชื้อเอชไอวี ทําใหนายจางในกิจการประเภทที่
                       เกี่ยวของกับอาหารและการบริการ หวาดกลัว และตั้งขอรังเกียจ
                   -  การขาดความรูในเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิและการเลือกปฏิบัติตามกฎหมายไทย ทั้งในสวนของ

                       นายจาง และตัวผูติดเชื้อเอง สาเหตุนี้ทําใหนายจาง จํานวนมากยังคงมีนโยบายเลือกปฏิบัติ ในขณะที่
                       ตัวผูติดเชื้อจํานวนมากก็ไมรูสิทธิของตนเอง และยอมรับการถูกละเมิดสิทธิ
                   -  การขาดความรูความเขาใจในเรื่องความกาวหนาเทคโนโลยีการดูแลรักษา ที่สามารถทําใหผูติดเชื้อ

                       เอชไอวีสามารถดํารงชีวิตไดตามปกติ ทําใหผูคนจํานวนมากยังเขาใจวา ผูติดเชื้อเอชไอวี จะมีสุขภาพ
                       ไมแข็งแรง นายจางจํานวนหนึ่ง จึงไมยอมจางผูติดเชื้อเขาทํางาน เพราะเกรงวาจะไมคุมและตองมี
                       รายจายเพิ่ม
                   -  อคติของคนในสังคม ที่ยังคงมองวา ผูติดเชื้อเอชไอวี เปนผูที่มีพฤติกรรมไมพึงประสงค จึงไมควรจะไป
                       เกี่ยวของกับผูติดเชื้อ

                       การขาดความรู ความเขาใจและอคติเหลานี้ ผลมาจากการรณรงคปองกันการระบาดของโรคเอดส
               ตั้งแตทศวรรษแรกๆ ที่มีลักษณะขูใหคนกลัวซึ่งการปลูกฝงมายาคติ ทําใหเอดส และเชื้อเอชไอวีเปนเรื่องนา
               กลัว โดยนโยบายการบริหารจัดการเอดสของภาครัฐเชนนี้ เคยถูกวิจารณวา นโยบายของรัฐในการจัดการ

               ปญหาโรคเอดสคือการลดพฤติกรรมเสี่ยงเพื่อปองกันการแพรระบาดของเชื้อเอชไอวีไปยังผูอื่นตกอยูภายใต
               แนวคิดระบาดวิทยานั้น เปนการจํากัดมุมมองไมใหเห็นเอดสในมิติอื่นๆ และยิ่งเปนซ้ําเติมการตีตราและการ
               เลือกปฏิบัติอยูตอไป
                       จากการศึกษาสถานการณและปญหาการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพตอผูอยูรวมกับเชื้อเอชไอวี

               ของไทย พบวา ภายใตกรอบกฎหมายปจจุบัน แมประเทศไทยยังไมมีกฎหมายเฉพาะเพื่อขจัดการเลือกปฏิบัติ
               ตอกลุมผูอยูรวมกับเชื้อเอชไอวี แตรัฐธรรมนูญของประเทศไทยไดมีบทบัญญัติในหลักความเสมอภาคและการ
   92   93   94   95   96   97   98   99   100   101   102