Page 70 - รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิจัยเรื่องการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผู้ติดเชื้อเอชไอวี
P. 70

48


                                                                                                   107
               กรณีนี้ยืนยันไดจากคํากลาวของตัวแทนแนวรวมธุรกิจไทยตานภัยเอดสในการประชุมกลุมของโครงการ  และ
               ความเห็นจากนายจางคนหนึ่งในธุรกิจขายรถยนต ซึ่งแมวาในกิจการของเขา จะมิไดมีการบังคับตรวจเลือดใน

               การสมัครงาน แตก็ไดตั้งขอสังเกตไววา โดยทั่วไป นายจางจะใหความสําคัญกับประสิทธิภาพในการทํางานของ
               พนักงานเปนหลัก และอาจเกรงวา ในกรณีที่พนักงานติดเชื้อ จะเปนการลดประสิทธิภาพในการทํางานของ
                     108
               ลูกจาง
                       จากการเก็บขอมูล พบวา ในชวงป 2551 – ปจจุบัน มีกรณีการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของ
                                       109
               ผูติดเชื้อเอชไอวีที่สําคัญ ดังนี้

                       การเลือกปฏิบัติในธุรกิจโรงแรม (2551)
                       พนักงานซักรีดของโรงแรมแหงหนึ่งซึ่งรูตัววาติดเชื้อเอชไอวีจากการตรวจสุขภาพประจําป ซึ่ง
               กําหนดใหมีการตรวจเอชไอวี อยางไรก็ดี แมจะติดเชื้อเอชไอวี แตโรงแรมแหงเดิมก็ยังคงจางงานตอ แตเมื่อ
               ผูติดเชื้อไดไปสมัครงานที่โรงแรมแหงใหมในตําแหนงเดิม ที่มีเงินเดือนและสวัสดิการดีกวา เมื่อโรงแรมแหงใหม

               เรียกตัวใหไปเริ่มทํางาน โดยแจงวาใหไปตรวจสุขภาพ โดยระบุวาตองตรวจหาเชื้อเอชไอวีในกรณีนี้ เจาหนาที่
               จากมูลนิธิศูนยคุมครองสิทธิดานเอดสใหคําแนะนําวา ยังไมควรจะออกจากงานที่เดิม
                       และในอีกกรณีหนึ่ง เปนการบังคับตรวจเลือดในธุรกิจโรงแรม โดยกําหนดใหตรวจกับคลินิคที่ทํางาน
               เชื่อมโยงกับโรงแรม ทําการตรวจเลือดและสงผลใหโรงแรมโดยตรง โดยที่เจาตัวไมรับรู

                       การเลือกปฏิบัติในบริษัทขายอาหารและเบเกอรี่ (2551)

                       ผูติดเชื้อสมัครงานในตําแหนงพนักงานรับโทรศัพทในบริษัทขายอาหารและเบเกอรี่ เมื่อผานการ
               สัมภาษณแลว ฝายบุคคลของบริษัทไดสงตัวไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลที่กําหนด ซึ่งโรงพยาบาลจะสงผล
               เลือดไปยังฝายบุคคลของบริษัท โดยระบุใหตรวจหาเชื้อไวรัสเอดสดวย สุดทาย กรณีดังกลาว ผูติดเชื้อตัดสินใจ

               ไมทํางานกับบริษัทแหงนี้ และหางานใหมที่ไมตรวจเลือดกอนทํางาน
                       การเลือกปฏิบัติในธุรกิจขายรถยนต (2551)

                       เมื่อผูติดเชื้อสมัครงานในตําแหนงพนักงานขายรถยนต และไดลงนามในหนังสือสัญญา เปนพนักงาน
               และทําสัญญาค้ําประกันเรียบรอยแลว บริษัทไดสงตัวผูสมัครเขาตรวจสุขภาพ โดยระบุใหตรวจรางกายทั่วไป
               ตรวจปสสาวะ ตรวจความสมบูรณของเม็ดเลือด ตรวจ X-RAY ปอดเพื่อดูภาพปอดและหัวใจ (ฟลมใหญ) และ

               ตรวจหาเชื้อไวรัสเอดส (ANTI-HIV) ในกรณีนี้ ผูติดเชื้อสามารถเลือกโรงพยาบาลและไปรับผลการตรวจไดดวย
               ตนเอง
                       การเลือกปฏิบัติในธุรกิจขายปลีกที่มีการขายอาหาร (2552)
                       เมื่อผูติดเชื้อไปสมัครงานตําแหนงผูชวยผูจัดการ ในสถานประกอบการธุรกิจขายปลีกที่มีการขาย
               อาหาร หลังจากสอบสัมภาษณและสอบขอเขียนผานแลว บริษัทสงตัวไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลใน

               เครือขายบริษัท โดยใบสงตัวระบุวาตรวจหาเชื้อเอชไอวี เมื่อผลการตรวจสุขภาพออกมา บริษัทก็ไมรับเขา
               ทํางาน โดยใหเหตุผลวา เปนเพราะบริษัททํางานเกี่ยวกับอาหาร (กรณีนี้ มีการรองเรียนไปยังกลุมงานประสาน







               107
                 ผูจัดการฝายบุคคลของบริษัทมหาชนขนาดใหญแหงหนึ่ง, สัมภาษณ, 17 กรกฏาคม 2556และการใหขอมูลจากตัวแทนของ
               สมาคมแนวรวมธุรกิจไทยตานภัยเอดส, การประชุมกลุม ครั้งที่ 5, 14 มีนาคม 2556
               108 เจาของดีลเลอรธุรกิจขายรถยนตแหงหนึ่ง (ไมเปดเผยชื่อ), สัมภาษณ, 7 พฤศจิกายน 2556
               109 ขอมูลจากมูลนิธิศูนยคุมครองสิทธิดานเอดส
   65   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75